WEBMASTER MARKETEER — 28/03/2016

ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่มีเงินลงทุนพอสมควร และมีประสบการณ์การเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเคยทำธุรกิจมาบ้างแล้ว ซึ่งข้อดีของแฟรนไชส์ที่ทำให้ทุกคนชื่นชอบคือ บริษัทคิดแผนธุรกิจ การทำตลาด การขนส่ง มาให้หมดแล้ว ที่เหลือคือการบริหาร การดูแลต่อนั่นเอง

ซึ่งในเมืองไทยเราก็คงคุ้นชื่อ เซเว่น แมคโดนัลด์ เคเอฟซี ร้านขนม จนไปถึงไก่ย่างห้าดาว ซึ่งปัจจุบันเทรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์ในไทยไม่เปรี้ยงปร้างเท่าสมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เนื่องจากคนสมัยใหม่ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง อยากสร้างรายได้มากกว่าจ่ายค่าแฟรนไชส์ให้แบรนด์

ฉะนั้นวันนี้ Marketeer จะพาไปดูธุกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับการจัดอันดับว่าดีที่สุดในทวีปอเมริกา มาให้ชมกัน

1.Jimmy John’s Sandwiches
แบรนด์แซนด์วิชที่เน้นวัตถุดิบ และความสดใหม่เป็นหลัก ซึ่งด้วยคุณภาพของอาหาร ทำให้ Jimmy John’s Sandwiches สามารถสู้กับแบรนด์ฟาสต์ฟู้ด แบรนด์แซนด์วิชเข้าอื่นได้ โดยราคาลงทุนเริ่มต้นอยู้ที่ 323,000-544,000 เหรียญ เปิดให้ทำแฟรนไชส์มาแล้ว 23 ปี

2.Hampton by Hilton
ราคาของแฟรนไชส์นี้อาจจะจับต้องไม่ง่าย เพราะเริ่มต้นที่ 3.7-14 ล้านหรียญ แต่สิ่งที่คุณตะได้กลับมาก็คือ แฟรนไชส์ของโรงแรมชื่อดังระดับโลก ซึ่งเป้าราคาห้องพักของโรงแรมนี้อยู่ในระดับ Mid-Price หรือระดับกลาง แต่การบริการนั้น Full Service เท่าโรงแรมราคาแพงเลยทีเดียว การที่ Hampton ถูก Hilton เข้าซื้อนั้นทำให้การบริหารจัดการโรงแรมดีขึ้น และมีมาตรฐานที่ดีขึ้นตาม ซึ่งถ้าพิจารณาจากปัจจัยที่นักท่องเที่ยวนิยม ท่องเที่ยวในโรงแรมระดับกลางถึงล่างมากขึ้น การลงทุนในธุรกิจโรงแรมก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน

3.Supercuts
ในปี 1975 Frank Emmett และ Geoffrey Rappaport เปิดร้านตัดผมร้านแรกของพวกเขาชื่อว่า Supercuts ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นร้านตัดผมแฟชั่น และร้านตัดผมสำหรับคนในท้องถิ่น พวดเขาคิดค้นทรงผมใหม่ถึง 20 แบบ เพื่อสร้างการให้บริการตัดผมที่รวดเร็ว และราคาไม่แพงสำหรับลูกค้า จากนั้นด้วยราคาที่ไม่แพง ทำให้แฟรนไชส์นี้กระจายไปทั่วสหรัฐ แล้วถูกซื้อกิจการไปในที่สุด ราคาในการเปิดแฟรนไชส์นี้เริ่มต้นที่ 144,4000-293,800 เหรียญ

4.Anytime Fitness
ทุกวันนี้ฟิตเนสเปิดปิดอยู่ตลอดเวลา สาเหตุสำคัญก็คือต้นทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนทั้งสถานที่ เครื่องออกกำลังกาย เทรนเนอร์ สิ่งอำนวยความสะดวก แต่รายได้นั้นมาจากทางเดียว นั่นก็คือ ค่าสมาชิก ฉะนั้น Anytime Fitness จึงสร้างระบบการดูแลฟิตเนสด้วยเทคโนโลยีเพื่อลดการใช้คนให้มากที่สุด และสามารถเปิดได้ 24 ชั่วโมงอีกด้วย โดยหลังจากเปิดขายแฟรนไชส์ในปี 2002 Anytime Fitness ก็ขย่ายอย่างมั่นคงด้วยสาขาที่เพิ่มมากถึง 2,500 สาขาทั่วสหรัฐ ในราคาลงทุนเริ่มต้นที่ 71,599-353,900 เหรียญ

4 แฟนไชส์ที่นำมาให้ดูนั้น เลือกจากแบรนด์ที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก เนื่องจากอยากให้เห็นภาพว่าธุรกิจแฟรนไชส์นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ดังราคาแพงเสมอไป หากเราไปเจอธุรกิจที่น่าสนใจ และมีแววรุ่ง เราก็สามารถเจรจาขอเรียนรู้ ขอซื้อแฟรนไชส์ได้เช่นกัน

ฉะนั้นผู้ประกอบการรายใหม่อย่ายึดติดกับการสร้างทุกอย่างด้วยตนเองเสมอไป บางครั้งโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น อาจอยู่ใกล้มือของคุณมากที่สุดก็เป็นได้

Franchise 500 จัดอันดับโดย Entrepreneur