รายการคืนความสุขให้คนในชาติ 3 มิถุนายน 2559
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ
ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่ง ประเทศไทย วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2559 เวลา 20.15 น.
พิธีกร:
สวัสดีค่ะ คุณผู้ชมและคุณผู้ฟัง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการคืนความสุขให้คนในชาติ วันนี้ดิฉันมารับหน้าที่ดำเนินรายการค่ะ คุณผู้ชมคะในแต่ละสัปดาห์นั้นรัฐบาลและ คสช. ก็มีงานที่ต้องเริ่มต้นดำเนินการ มีงานที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ก็มีงานที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินงาน จำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนจะต้องรับรู้ถึงความเป็นมาเป็นไปและก็ความพยายาม ที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ซึ่งตอนนี้รัฐบาลและ คสช. กำลังพยายามอย่างเต็มที่นะคะ ในทุกค่ำคืนวันศุกร์แบบนี้ เราจะได้รับเกียรติจากท่านนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. มาพบและพูดคุยกับพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับค่ำคืนในวันนี้นะคะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้เกียรติอยู่กับเราแล้วนะคะ ท่านนายกสวัสดีค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
ครับ สวัสดีครับ
พิธีกร:
เช่นเคยนะคะเราเริ่มต้นกันด้วยเรื่องดี ๆ ก่อนนะคะ ปีนี้เป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทยด้วยค่ะท่านนายกฯ คะ
นายกรัฐมนตรี:
ครับ มี 3 วาระด้วยกัน เฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 70 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ 1 นี้ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.59 ถึง 9 มิ.ย.60 ก็ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล ร่วมใจกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติ มีการประดับธงตราสัญลักษณ์อย่างพร้อมเพียงกันทั่วประเทศ อีกงานก็คืองานครบรอบพระชนมายุ 84 พรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เป็นปีมหามงคลแก่ประเทศเรา แก่คนไทยทุกคนในช่วงปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 ธ.ค. เป็นต้นไป ก็อยากให้ทุกคนร่วมกันทำความดีเป็น 2 เท่าให้กับประเทศ ให้กับตัวเองด้วยนะครับ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือสัปดาห์หน้าจะเป็นวันสำคัญสำหรับพี่น้องชาวมุสลิมของเราจะเข้าสู่การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1437 ก็ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ ด้วยความจริงใจ โดยขออำนวยอวยพรให้ทุกคน สามารถบำเพ็ญกุศล ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ได้บรรลุผลสำเร็จ ตามเจตนารมณ์ทุกประการ และขอให้ผลของการบำเพ็ญตน ส่งเสริมให้ทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความเข้มแข็ง ความปลอดภัย และสัมฤทธิ์ผลในสิ่งอันพึงปรารถนาโดยทั่วกัน ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งพลเรือน พลทหาร ได้ทุ่มเทศักยภาพในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลดังกล่าวให้ดียิ่ง ก็ให้ประชาชนเฝ้าระวังด้วยนะครับ เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุขในเดือนรอมฎอน และดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยครับ
พิธีกร:
รวมทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และภาคประชาชนด้วยนะค่ะ อีกหนึ่งเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ของนักกีฬาไทย ท่านนายกฯ อยากจะแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงยังไงบ้างค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
อีกเรื่องก็คือเรื่องกีฬา ปีนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จของนักกีฬาไทย ในการทำชื่อเสียงให้กับประเทศทั้งในระดับโลก ระดับอาเซียนด้วย ที่ผ่านมามี “น้องเมย์ – รัชนก – นักแบดมินตัน” และ “โปรเมย์ – เอรียา – นักกอล์ฟ” ที่ได้แชมป์ 3 รายการทั้งคู่แล้ว / อีกคนที่ไม่ได้ไปแข่งขันกับใครแต่ก็แข่งขันกับตัวเองเพราะต้องมีร่างกายที่ เข้มแข็ง จิตใจที่อดทนจริงๆ “หมออีม” ทันตแพทย์หญิงนภัสพร – ผู้หญิงไทยคนแรก – ที่ได้ไปพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จ สูงกว่า 8,000 เมตร อันนี้ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีเช่นกัน
พิธีกร:
มาถึงเรื่องปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ซึ่งท่านนายกฯ เองก็ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ก็มีสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนการสะท้อนภาพการทำงานที่สำเร็จของรัฐบาล และทำให้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ผ่านการจัดอันดับของสถาบันที่เรียกว่าเป็นสถาบันระดับโลกเลย ท่านนายกฯอยากจะพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้างค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
ถ้าพูดถึงดี ก็ดีในภาพรวม หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าดียังไง คือสถาบันการจัดอันดับนานาชาติ หรือ IMD เค้าจะประกาศทุกปีเพื่อจะจัดอันดับความสามารถของประเทศว่ายังดีอยู่ จะทำอย่างไรให้ประเทศแข่งขันกับเขาได้ ก็ต้องให้องค์กรภายนอกเข้ามาตรวจสอบ ที่ผ่านมาในปี 2558 ไทยได้อันดับที่ 30 ในปัจจุบันก็บอกว่าเราเลื่อนขึ้นมา 2 อันดับ เป็นอันดับที่ 28 ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ ใน 5 ประเทศ มีประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับการปรับอันดับสูงขึ้น ก็น่าภูมิใจ ถึงแม้เศรษฐกิจทั้งโลกจะผันผวน ชะลอตัว แต่ก็ถือเป็นความสำเร็จในการที่จะสร้างเศรษฐกิจระดับชาติ ระดับประเทศขึ้นมาเพื่อจะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจภายในที่เราทำอยู่
พิธีกร:
มี 4 เกณฑ์ที่เขาวัด ได้แก่ สมรรถนะทางเศรษฐกิจ, ประสิทธิภาพของภาครัฐ ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน อยากให้ท่านนายกฯ วิเคราะห์ในแต่ละส่วน ว่ามีส่วนไหนที่เราประสบความสำเร็จ และมีส่วนไหนที่ยังเป็นปัญหาและยังต้องแก้ไขอยู่
นายกรัฐมนตรี:
เรื่องแรก ด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจ แม้ภาพรวม “ทรงตัว” แต่เศรษฐกิจในประเทศ + การค้าระหว่างประเทศ + การลงทุนระหว่างประเทศ ปรับตัว “ดีขึ้น” แต่คงไม่เร็วมากนัก คงฟื้นตัวช้าๆ เพราะเราเน้นการพึ่งพาตนเอง สร้างความเข้มแข็งจากภายในก่อน / คู่ขนานกับต่างประเทศ ที่เขาดูว่าเราจะแก้ไขอย่างไร เขาถึงจะกล้าลงทุน ก็ต้องทำทั้ง 2 ส่วนไปด้วยกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการประเมินจากภายนอกมา เราก็จะเดินได้เร็วขึ้น
เรื่องที่สอง ด้านประสิทธิภาพภาครัฐ ไทยเราขยับ “สูงขึ้น” 4 อันดับ ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ/ แต่ละปัจจัยย่อยปรับตัว “ดีขึ้น” / เช่น ด้านกฎหมายทางธุรกิจ ที่ต้องแก้กฎหมายหลายตัว + ฐานะการเงินการคลังเราก็ยังมั่นคงอยู่ + นโยบายการคลัง + ดุลงบประมาณภาครัฐ + ค่าใช้จ่ายของภาครัฐ อันนี้เราให้ความสำคัญกับวินัยการเงินการคลัง เราต้องไม่ใช้เงินในทางที่ฟุ่มเฟือย ไม่ซ้ำซ้อน ไม่สร้าง Demand เทียม ที่ผ่านมามีการสร้าง Demand เทียม Demand เทียมคือความต้องการเทียม ๆ คนก็ซื้อกันใหญ่ แล้วถึงเวลาชำระไม่ได้ การขยายกิจการก็ตาม Demand เทียมวันนี้ก็ผลิตได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ คือทำให้งบประมาณเหมือนเป็นตัวเลขหลอก ๆ ว่าดีขึ้นจริงหรือไม่จริง เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ด้วย ประชาชนต้องมีความพร้อมในการชำระหนี้ต่างๆเหล่านี้ ไม่ว่าจะให้ซื้ออะไรตามมาตรการต่าง ๆ ต้องรอบคอบกว่านี้ ข้อเท็จจริงว่าไง เราต้องปฏิบัติในเรื่องระเบียบระบบราชการใหม่ด้วย เจ้าหน้าที่ก็ต้องปรับตัวใหม่ในรูปของข้าราชการภาครัฐให้มีการบูรณาการ ซึ่งเป็นระบบที่ยาก แต่เราก็ทำมาแล้ว ถือเป็นการปฏิรูปในระยะที่ 1 การปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยทุกหน่วยงานให้เป็นสากล ต้องไม่ขัดแย้งกันเอง บางงานข้ามกระทรวง ที่ผ่านมาก็จบตรงนี้มามาขออนุมัติตรงนี้เสร็จแล้วปรากฏติดอีกระทรวงอีก ถึงบอกให้ไปทำให้เสร็จตั้งแต่แรกเสนอขึ้นมา ครม.จะได้อนุมัติได้ง่ายขึ้น
เรื่องที่สาม ด้านประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ ภาพรวมยังไม่ดีนัก ต้องมามองสิว่าจะดีขึ้นยังไง เขาประเมินจากตัวเลขการนำเข้า การส่งออก การผลิต ผลิตผลที่ออกมาก็ต้องมาดูว่าตอนนี้โลกมีปัญหาอะไร ทั่วโลกลดลง ตลาดก็ต้องลดลง การผลิตก็ลดลง คนผลิตขั้นที่ 1 ก็ต้องขายได้น้อยลง เช่นข้าว ผลิตแล้วไม่มีคนซื้อ เพราะฉะนั้นเราต้องมองตรงนี้ว่ามันเชื่อมโยงกันยังไง หลายคนผมเห็นในข่าว ในสื่อบ่นกัน จริง ๆ แล้วผมคุยกับสมาคมหอการค้า สมาคมอุตสาหกรรมไปหมดแล้วทุก sector ปรากฏว่า ยังมีบางบริษัท หรือบางคนพูดในทางที่เสียหาย ขัดแย้งกับสิ่งที่เราคุยกันแล้วใน กรอ. อันนี้ต้องขอร้อง ไม่มีบริษัทไหนที่จะต้องรวยตลอดไม่มีทาง ตราบใดที่ท่ายังอยู่ในวงจรการผลิต แปรรูป และการตลาด ถ้าตลาดไม่ดี การผลิตก็ไม่ดีด้วย ก็ตามไปสู่การขนส่งทางเรือบ้าง ทางรถจะดีได้ยังไง ถ้าเอาสินค้ามันขายไม่ออก ผลิตก็ลดลง แปรรูปลดลง ขนส่งก็แย่ลง ทำไมจะไม่แย่ คือพูดแบบนี้มันเสียหาย ก็ทำโครงสร้างทั้งหมดก็ต้องอดทนกันบ้าง นักธุรกิจบางคนติดตามอยู่
เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราต้องให้ความสำคัญกับการสร้างประสิทธิภาพ มีประสิทธิภาพ แรงงานก็ต้องพัฒนาให้มีเกณฑ์สูงขึ้น ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ แรงงานในภาคเกษตร อุตสาหกรรม การพัฒนาแรงงานไทยไปสู่อุตสาหกรรมมันไม่เพียงพอ การผลิตนำเข้าก็ไม่สอดคล้องกันอีก การผลิตต้องการนักเทคนิค วิศวกรมากมาย แต่ก็ไม่ได้ผลิต ไปทางวิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ สังคม ทำนองนั้น ถ้าเราต้องการสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ ก็จะได้นำพาให้ธุรกิจดีขึ้น รายได้ดีขึ้น ประเทศก็พัฒนา ปรากฏว่าผลิตออกมาไม่สอดคล้องก็ไม่มีคนทำงาน แล้วตอนนี้ก็เปิดอาเซียนแล้วด้วย เราก็ขาด ถ้าเขาเอาคนอื่นมาทำแล้วทำไง คนไทยไม่มีงานทำ เราก็ต้องไปเร่งทุกอย่าง ตั้งแต่ปฏิรูปการศึกษา สำรวจตลาดแรงงานร่วมกับเอกชน ในโครงการประชารัฐ รัฐอย่างเดียวคงไปไม่ไหว สำคัญก็คืออย่ามาสะดุดกันเอง พูดแล้วพูดอีก พูดให้ตัวเอง วันนี้ต้องพูดให้ส่วนรวมแล้ว เพราะต้องเสียสละกันบ้าง กำไรน้อยลง ตรงไหนที่เกินไปก็ลดลงบ้าง ไม่ใช่เปิดเต็ม มันไม่มีอะไรจะผลิต คนงานก็เต็มไปหมด แต่อย่าไปลดคนงานเขา เมืองนอกเขาใช้วิธีไม่เลิกจ้าง แต่ลดค่าแรงลง ช่วยกัน องค์กรสร้างความเป็นเจ้าของให้กับแรงงานของบริษัทนั้นๆ เอาเขามาดูบ้าง เรียกร้องรัฐบาลทุกอย่างเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
และเรื่องที่สี่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีทั้งที่ปรับตัวดีขึ้น – ลดลง / ความจริงก็เร่งทุกอย่างในการพัฒนาประเทศ เพราะว่าปัจจัยสำคัญที่จะดีขึ้นก็คือโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และเน้นเรื่องนวัตกรรม ส่งเสริมอุตสาหกรรม “สีเขียว – เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เราก็เน้นด้านนวัตกรรม ส่วนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ และด้านการศึกษาที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาในขณะนี้ เราต้องใช้เวลา ต้องอดทนรอกันบ้าง บางเรื่องต้องแก้กฎหมายตั้งหลายฉบับ บางฉบับก็ต้องผ่านตั้ง 3 วาระ ผมก็ไม่อยากจะใช้ม.44 มากนัก บางเรื่องที่มันไม่จำเป็น ฉะนั้นเราต้องทำยังไงไม่ให้แก้อันนี้ไปติดอันโน้น นั้นคือปัญหาสำคัญ ลงทุนก็ติดหมด ติดเพราะอะไร เพราะ 1. การไม่ผ่านการทำ EIA EHIA หรือไม่ก็ติดปัญหาผู้บุกรุกทำนองนี้ ก็เกิดไม่ได้เลย ก็ต้องกลับมาดูว่าเกิดขึ้นจากอะไร ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วต้องทำยังไง ต้องใช้อำนาจตลอดไปหรือ ฉะนั้นประชาชนทุกคนก็ต้องรู้ตัวเองว่าทำผิดทำถูก ถ้าแบบนี้รัฐบาลก็จะหาทางแก้ให้ได้ หาที่อยู่ให้ใหม่ แล้วทุกคนไม่ยอมทั้ง ๆ ที่ผิดกฎหมายไม่ได้ เรื่อง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ ทั้งนักลงทุนคนไทย + ต่างชาติ ต้องรู้ ก่อนปี 57 เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ปรับปรุง เราก็ทำ one stop service ศูนย์ดำรงธรรม ทั้งหมดต้องไปด้วยกัน อันนี้ก็ประเด็นหลักๆ
พิธีกร:
ค่ะ เป็นการสะท้อนด้วย ให้ประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แล้วก็จะได้ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาด้วย ท่านนายกฯ ค่ะมาพูดถึงเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจบ้าง จริงๆแล้วมีปัญหาของเศรษฐกิจมากมายที่อาจจะกระทบกับพี่น้องประชาชนโดยตรง และก็รู้สึกได้ แต่ก็มีปัญหาอีกจำนวนไม่น้อยนะคะท่านนายกฯที่เหมือนซุกซ่อนอยู่ใต้พรม มีอะไรที่ท่านนายกฯยังเป็นห่วงในเรื่องของเศรษฐกิจบ้างคะ
นายกรัฐมนตรี:
เศรษฐกิจโดยรวมที่ผมพูดไปเมื่อกี้คือเรื่องการลงทุนของต่างประเทศ ภาคเอกชนภายในประเทศ ต้องร่วมมือกันในการที่จะทำยังไงให้สมดุลกันระหว่างต้นทาง กลางทาง และปลายทาง คราวนี้มาดูเศรษฐกิจระดับล่าง รากแก้ว ก็คือประชาชน รัฐบาลก็ต้องแก้ไขให้ความสำคัญเรื่องค่าครองชีพ มีรายได้เท่านี้ เงินเดือนเท่านี้ ผลผลิตก็ราคาตกต่ำต้องทำยังไง ก็ไปดูค่าครองชีพ ปรากฏว่าก็เกิดภัยแล้งอีก ฉะนั้นวันนี้ผมสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบ ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นให้เป็นปกติ เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นไปตามฤดูกาล ที่มีคนบอกว่าบางอย่างแพงไป ก็บางอย่างก็แพงทุกปี ของบางอย่างมันแพงหน้าแล้ง หน้าร้อน ปีนี้อาจจะแพงมากกว่าเก่า เพราะปลูกได้น้อย น้ำไม่มี ฉะนั้นอย่าไปเชื่อคำบิดเบือน เดี๋ยวก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ฝนมาปลูกได้มากขึ้น ช่วงนี้ใครมีกำลังตรงไหนก็รับประทานตรงนั้น ถ้าโวยวายเรียกร้องกันหมดทำไม่ได้หรอกครับ เพราะเราเป็นประเทศประชาธิปไตย มีเสรีในการค้าขาย เราไปคุมทุกอย่างมันไม่ได้เหมือนกับต่างประเทศ ยอมไหมล่ะ
วันนี้ต้องมองหลายด้านภาพใหญ่ เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ผมพูดตอนต้นไม่ดี ข้างในก็ต้องไม่ดี เพราะรายได้มันลดลง เราจะไปมองราคาแก๊สต้องลดลง น้ำมัน ค่าขนส่งต้องลดลง มันเป็นการคิดแบบคณิตศาสตร์ มันไม่ใช่ ปัจจัยมากมาย ความสมดุลของลมฟ้าอากาศ น้ำ เหมาะสมหรือเปล่า ปลูกได้มาก ปลูกได้น้อย เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการก็ต้องระมัดระวังและช่วยเหลือ ผู้ประกอบการนักธุรกิจก็ต้องเห็นใจประชาชนบ้าง เห็นใจ sector อื่นที่เค้าต่อเนื่องกับท่านบ้าง ท่านบอกว่ากำไรท่านน้อย ปีที่แล้วได้เท่านี้ เดือนนี้ลดลงเท่านั้น ก็ต้องลด คนไม่มีสตางค์ซื้อ คนประกอบการต่าง ๆ ไม่มีสินค้าจะส่ง ก็ต้องอดทนกัน เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องลดกำไรลงบ้าง
สำหรับการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวร้อยละ 2.3 อันนี้หลายอย่างด้วยกัน หรือบางอย่าง บางรายได้อาจจะดีขึ้น แต่บางทีก็หวือหวา เช่นที่ผ่านมา ก็มีเรื่องอัญมณีบ้าง เรื่องทองคำ ก็ทำให้ตัวเลขมันสูงขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของหลักทางเศรษฐศาสตร์
ส่วนที่ทุกคนเป็นกังวลคือ หนี้ครัวเรือนสูง หนี้ครัวเรือนสูง มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ใช้ทำอะไรถึงเป็นหนี้เป็นสินก่อนผมเข้ามาเป็นหนี้ตั้งเท่าไหร่ ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 มีจํานวน 5.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.1 ของ GDP มันสูงอยู่แล้วเกือบ 50 แล้ว ปัจจุบันหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มี 6 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42.8 ของ GDP 2 อันนะ หนี้สาธารณะ หนี้ในประเทศ และหนี้ครัวเรือน ก็มีผลด้วยกันทั้งคู่ ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 หนี้ครัวเรือนมีสูงอยู่แล้ว / เมื่อเราต้องเร่งขับเคลื่อน ทำอย่างไรจะใช้เงินให้เป็นประโยชน์ ทำยังไงจะเป็นหนี้ที่มีความเข้มแข็ง ผ่อนบ้าน เป็นหนี้ที่มีคุณภาพ ถ้าจะทำให้ไปซื้ออุปกรณ์ที่มีประโยชน์มาประกอบอาชีพ ไม่ใช่ไปซื้อรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซด์ไปขับเป็นเด็กแว้นท์ให้ลูก มันจะได้ไม่เป็น Demand เทียม เพราะทุกคนก็อยากได้หมด จะมีบ้านก็ต้องมีหนี้ แต่หนี้เดิมก็มากอยู่แล้ว ทีนี้จะมาบอกว่ารัฐบาลทำไม่มีประโยชน์ กู้ไม่ได้อีก แล้วใครทำให้เป็นหนี้ ก็ตัวเอง แล้วรัฐบาลดูแลในภาพรวม ผมไม่โทษใคร ก็ต้องมาแก้วันนี้ อย่ามาบ่นกันนักเลย
วันนี้ก็ลดทั้งดอกเบี้ยภาษีมากมาย หลายคนบอกยกหนี้ไปเลย แล้วหนี้หายไปแล้วจะทำยังไง สถาบันการลงทุนทางการเงินก็แย่หมดสิ เค้าต้องเตรียมเงินไว้ก้อนนึง ดอกเบี้ยเก็บไปก็ต้องเก็บไว้ก้อนนึง จะมาก จะน้อย ก็ต้องคุยกัน แต่เค้าก็ต้องเผื่อ เวลาไม่มีคนใช้หนี้เค้าก็เอามาโปะตรงนี้ ธนาคารเขาถึงอยู่ได้ ธนาคารรัฐ บางคนบอก ธกส. ดอกเบี้ยแพง ที่ผ่านมาก็ไม่มองว่าเรายกหนี้ ชะลอหนี้ไปเท่าไหร่ ถ้าไม่เตรียมสำรองไว้ มันก็ล้มทั้งธนาคาร
การลงทุนภายนอกประเทศ วันนี้ถ้ามองในภาพรวมจากสถิติการลงทุนของบีโอไอบ้าง การลงทุนที่ติดต่อโดยรัฐบาลโดยการนำนักธุรกิจเข้าชม ไปเยี่ยมเยียน ก็ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง สถิติการลงทุนรวมก็ขยายตัวร้อยละ 4.7 การลงทุนของต่างประเทศเขาดูเสถียรภาพของประเทศด้วย เขามองว่าอนาคตจะยั่งยืนไหมที่เป็นอยู่ตอนนี้ วันหน้าจะเป็นแบบนี้อีกต่อไปไหม เขาไม่ได้ลงทุนเพื่อปีนี้ แต่ลงทุนปีนี้เพื่อ 20 ปีข้างหน้า แล้วคิดไปถึง 50 ปีข้างหน้าเค้าต้องย้ายฐานการผลิตหรือเปล่า อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ ผมอยากจะเตือนว่าถ้ายังทำลาย ยังทะเลาะกันแบบนี้มันไปยากนะ สถิตินี้ก็ดีขึ้น แต่อย่าไปมองว่ามันใช่หรือไม่ใช่ มันจะใช่ก็ต่อเมื่อเขาลงทุนจริงๆ ตกเสาเข็มต้นแรกแล้วผลิตออกมาชิ้นแรกมันถึงจะชัดเจน สถิติโอเคสูงขึ้น แต่ก็อยู่ที่ว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบไหม มีเสถียรภาพไหม รัฐบาลจะเป็นยังไงอันนี้เขาถึงจะเชื่อมั่น จากที่เขามองเราจาก IMD เราก็ต้องทำให้มันสงบ วันนี้ผมก็ไม่รู้จะว่าไง มีคนหลายคนเคลื่อนไหวอยู่ ผมบอกนั้นจาการที่เราผ่อนผันให้เดินทางไปต่างประเทศ ผมได้ข่าวไปประชุมอะไรกันที่เวทีต่างประเทศ แล้วก็โจมตีประเทศตัวเอง ดูเอาแล้วกันว่าคนเหล่านี้เขาหยุดไหม จะปรองดองกับผมหรือเปล่า เขาไปพูดจาให้ร้ายประเทศในสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จ แต่ผมก็จะให้กระทรวงการต่างประเทศจัดผู้แทนไปชี้แจงในทุกเวที อันนี้ต้องขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ได้รับรายงานมา ผมก็ตอบให้ทุกวัน พวกนี้ก็โจมตีทุกวัน เศรษฐกิจบ้าง เรื่องการควบคุมตัว แม้กระทั่งไปจับกุมพระ เจาผิดกฎหมายหรือเปล่า สรุปว่าถ้าไม่จับกุมเจ้าหน้าที่ก็ผิด ถ้าไม่จับกุมก็บานปลายแบบนี้ คดีเก่าก็ไม่จบ คดีใหม่ก็สร้าง แล้วก็โทษเจ้าหน้าที่ โทษ คสช. คนในประเทศก็คิดเอาแล้วกัน
เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน มีการผันผวนตลอดเวลา ลงทุนจากนอกประเทศก็ขึ้นอยู่กับประเทศเขาด้วย ถ้าขออนุญาตไว้ ขึ้นบัญชีไว้ว่าลงทุน คือเขาดูตัวเราเอง เขาดูตัวเขาเองด้วยว่าเขาไปไหวไหม วันนี้ต้องไปมองเศรษฐกิจมหาอำนาจ เศรษฐกิจอเมริกา ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 8 ไตรมาส กลุ่มประเทศยูโรโซนขยายตัวร้อยละ 1.6 น้อยนะ ญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างช้าๆ จีน ชะลอตัวลง สู่การขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมใหม่ (สิงคโปร์ – เกาหลีใต้ – ฮ่องกง) และอาเซียน เศรษฐกิจหดตัวต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นอย่ามาว่ารัฐบาลไทย คสช. ทำให้เศรษฐกิจตก ตัวเลขเราลดบางอัน บางอันก็ขึ้นภาพรวมอาจจะขึ้นน้อยหน่อย วันหน้าอาจจะลดไปอีกหน่อย ก็แล้วแต่สถานการณ์ภายนอกด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ต้องเปิดตลาดใหม่ – หมู่เกาะ ทางด้านอินโดนีเซีย ทางด้านอื่นบ้าง ไปสร้างตลาดที่มันเป็นตลาดพรีเมี่ยม ไม่เช่นนั้นตลาดเดิมมันเต็ม แล้วเศรษฐกิจเขาไม่ดีขึ้นบางอย่างก็ขายไม่ได้ มันก็ต้องไปหาตลาดเล็ก ๆ ดูบ้าง หาตลาดเฉพาะบ้าง ตลาดพรีเมี่ยมของที่มีราคา เช่น ข้าวอินทรีย์ แทนที่จะขายข้าวหอมมะลิอย่างเดียว วันนี้ต้องปรับหมด ข้าวขาวต้องเป็นข้าวมีคุณภาพ มีมาตรฐานที่ดี ไม่อย่างนั้นก็แข่งกับเขาไม่ได้ ต้องสร้างเอกลักษณ์มาตรฐานพันธุ์ข้าวของไทยเรา เรา มีเป็นร้อยชนิด วันก่อนสมาคมชาวนา 300 กว่าคนจากทั่วประเทศเขาก็ดีใจและชื่นชมการทำงานของรัฐบาลเวลานี้ ก็หลายอย่างอาจจะมีความไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง เราก็ต้องอธิบายกันต่อไป เช่นเรื่องการให้ความรู้ คือเขาไม่เคยมีคนไปแนะแบบนี้ เขาก็เลยคิดไม่ถึงบ้าง ทำนองนี้ มีโลกส่วนตัว ตอนนี้โลกส่วนตัวเขาเปิดละ ก็คือว่ามีศูนย์การเรียนรู้เหล่านี้ ไม่ว่าจะของเกษตร 882 ศูนย์ ให้ความรู้ ศูนย์มหาดไทย 2,000 กว่าศูนย์ ศูนย์ของเทคโนโลยีชุมชนของไอซีที เพื่อทำการตลาด เช่นที่บุรีรัมย์ทำ รายได้เขาเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า ขายของตรง อยากไปซื้อข้าว ซื้อปุ๋ย ก็เปิดดู เขาก็ไปซื้อ แต่ก็ต้องมีการรับรองมาตรฐานให้ดีว่ามีมาตรฐานนะ ไม่มีปลอมปน ตอนนี้ถ้าเราไม่เปลี่ยนแบบนี้นะ มันก็ขายของเก่ากิน ไม่มีทาง มันต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วยเสริม
พิธีกร:
ฝนมาแล้วท่านนายกคะ แต่ว่าหลายพื้นที่ก็ยังคงประสบกับปัญหาภัยแล้งอยู่และกระทบกับเศรษฐกิจโดยตรงค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
ภัยแล้งเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงของโลก แล้วเราก็ทำลายเองด้วย ตัดต้นไม้จนเกลี้ยง เขาหัวโล้น ก็เป็นปัญหาอยู่ก็ต้องแก้ปัญหาเขาหัวโล้นด้วย จะต้องมีวิธีบริหารจัดการการปลูกป่าที่ไม่ใช่ปรกติ อยู่ดีดีก็ถ่ายรูปแล้วปลูกกัน ตายหมด ต้องทำให้เขามีความชุ่มชื้น ไปทำฝายขนาดเล็กให้น้ำมันชะลออยู่บนพื้นที่ที่เป็นเขาหัวโล้นให้ได้ก่อน ฝนตกมาอย่าน้อยก็ไม่ลงไปข้างล่างเร็วนัก อาจจะต้องเอาเม็ดกระถินณรงค์ ต้นกระถินยักษ์ไปโปรยปลูกให้ขึ้นทั่ว ๆ ไป ถึงจะไปปลูกต้นไม้เล็ก ต้นไม้ยืนต้น ไว้ใต้ร่มเงาเหล่านี้ ถ้าไม้จะปลอดภัย ท่านไม่ต้องดูแล ต้อง 2 เมตรขึ้นไป ไม่ใช่ไปปลูกต้นเล็ก ๆ พอถ่ายรูปเสร็จก็ตายหมด ใครจะไปรดน้ำบนเขา มีคนรดหรือเปล่า ก็ต้องไปทำฝายไว้ เรียกว่าต้องสร้างให้เหมือนพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานในเรื่องป่าเปียก การรักษาป่า กักน้ำไว้บนเขา ให้ชะลอตัวลงมา ต้นไม้ก็จะกักเก็บน้ำไว้ได้ด้วย เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำแบบนี้
เรื่องน้ำ ถึงแม้ว่าฝนจะตก ก็ตกไม่ทั่วหรอก อย่างเช่นวันนี้เท่าที่ผมติดตามปัญหาเขื่อนอื่นๆ มีการเติมไปหลายล้านอยู่เหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือเขื่อนภูมิพลยังน้อยมาก ก็ถือว่าเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ เป็นเขื่อนที่มีความสำคัญแก่พี่น้องชาวเกษตรกร และประชาชนทั่วไป กำลังหาวิธีว่าจะเติมน้ำอย่างไร และฝนไม่ตก ความชื้นไม่มี เมื่อ วานผมถามชาวนาว่า ฝนตกหรือยัง เขาบอกยังไม่ตกเลย อยากขอฝนเทียมของกรม (ฝนหลวง) ผมบอกว่าเครื่องบินก็บินจนเปื่อยแล้วตอนนี้ มันไม่มีความชื้น จะมีน้ำฝนที่ไหนตก ก็ต้องคอยอีกนิดนึง แต่ผมคิดว่า ถ้าทำความดีกันมาก ๆ ผมว่าฝนจะตกนะ แต่ก็ไม่อยากให้ตกกรุงเทพมากนัก จราจรติดขัด คือฝนมักจะตกในที่ที่ไม่ต้องการ กรุงเทพต้องการพอสมควรเปียกๆ พอแล้ว
พิธีกร:
เรื่องของปัญหาสังคมเองนั้น ก็เป็นการสะท้อนปัญหาด้านเศรษฐกิจได้ดีนะคะ ตอนนี้เรามีความสุขกันมากขึ้น หลาย ๆ คนบอกว่าบ้านเมืองสงบสุขมากยิ่งขึ้น แต่มันก็จะยังมีปัญหายิบย่อยที่เป็นเรื่องของปัญหาสังคมค่ะท่านนายก ที่ท่านนายกยังเป็นห่วง แล้วอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือบรรยากาศที่ไม่ดีบ้างนะค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
สิ่งสำคัญอันหนึ่งคือ สังคมแห่งการเรียนรู้เราที่ผ่านมา ไม่ค่อยให้ความสำคัญในเรื่องนี้ มีแต่เรียน ศึกษาแล้วก็จบมา แต่การเรียนรู้ว่าจะอยู่ร่วมกันร่วมกันอย่างไรนั้นมันไม่ค่อยคำนึงถึงกัน วันนี้หลายคนบอกว่าไม่ต้องมาปรองดอง ไม่ต้องแก้ไขมากนัก แก้เรื่องเดียวคือเรื่อง ปลูกจิตสำนึก แต่ไม่ใช่ปลูกต้นไม้ เรื่องปลูกจิตสำนึกนั้น ปลูกต้นไม้ยังโตมีระยะเวลาที่ควบคุมได้ แต่นี่จิตสำนึกเมื่อไหร่จะครบล่ะ 70 ล้าน 70 ล้านจะมีจิตสำนึกเท่ากันได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้พูดเรื่องนี้กันเลย ก็แล้วแต่ว่า ครอบครัวดี ครูดี ก็ดี ชาติตระกูลดีก็ดี บางทีชาติตระกูลดียังไม่ดีเลย คือทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ ถึงต้องไปลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ต้องไปเรียนรู้เรื่องอื่น ๆ ด้วย ต้องมีคุณธรรมจริยธรรม เมื่อเริ่มอย่างนั้น ทุกคนก็สงบนิ่ง จิตใจมันก็ดี ไม่ไปรังแก ให้ร้ายคนอื่น เผื่อแผ่แบ่งปัน ตรงนี้มันไม่มีในคนไทยมานานแล้ว ก็มีอยู่น้อย มีไม่ใช่ไม่มี เพราะฉะนั้นเราต้องดูการศึกษาต้นตอทั้งหมด พอการศึกษาไม่ดี ก็ไม่มีงานทำ หรืองานก็มีรายได้น้อย ไม่เป็นแรงงานที่ไม่ใช้ฝีมือแก้ตรงโน้นด้วย ตามไปสู่ความยากจน ปัญหาครอบครัว ลูกเต้าขาดความอบอุ่น พ่อแม่ต้องไปหางานงก ๆ ทั้งวัน ลูกไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง ดูอะไรต่าง ๆ มา แล้ว เดี๋ยวก็ไปติดยาเสพติดอีก
ส่วนใหญ่เพราะว่าขาดความอบอุ่น สังคมจะเริ่มจากครอบครัว พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูก แล้วลูกก็ไปเรียนหนังสืออย่างเดียว แล้วก็ไม่ได้สอนว่าจะต้องทำตัวยังไง สังคมไทยจะเป็นยังไง ประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นยังไง เหล่านี้เป็นเป็นปัญหาทั้งหมด เราต้องดูแล วันนี้ เรากลับมาดูเด็กตั้งแต่แรกเกิด วันนี้เราอยู่ในศตวรรษที่ 21 ใช่ไหม วันนี้ครูก็เห็นเขาสรุปมาว่าครูก็ศตวรรษที่ 19 โรงเรียนก็ไม่ใช่ครูศตวรรษที่ 20 ผลิตมาตอนนั้น โรงเรียนสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แหมเห็นไหม 19-20-21 พอ 21 วันมันต้องใช้อะไรนะ การศึกษาที่มันไม่อยากจะเรียกว่า STEM แต่ความจริงก็คือ 4 วิชาหลัก ๆ เพื่อให้มีคนเหล่านี้มากขึ้น แล้วคิดเป็น วิเคราะห์เป็น ถ้าทุกคนมีเหตุมีผลนะ คิดวิเคราะห์เป็น มีทั้งเรียนรู้ด้วย จะทำให้เราไปสู่การเป็นสังคมที่เข้มแข็ง ในอนาคตทุกคนมีรายได้ดี เราก็จะก้าวไปสู่ ไทยแลนด์ 4.0 อยากจะใช้ว่าไทยแลนด์ 4.0 เดี๋ยวจะไม่เป็นสากล 4.0 ของ S นะ 4.0 S S คืออะไรล่ะ S คือ SDG ไง เป้าหมายการพัฒนา 15 ปีของ UN ซึ่งมันต้องสอดคล้อง รองรับตลาดแรงงานด้วย รองรับสังคมผู้สูงอายุ นะ พัฒนาอย่างยั่งยืน เหล่านี้ต้องตามกันไปทั้งสิ้น วันนี้รัฐบาลเอามาทำแบบนี้ ต้องปรับทั้งโครงสร้าง ปรับระบบการทำงาน
พิธีกร:
เรื่องของสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของประชาชนล่ะคะ ท่านนายกคะ
นายกรัฐมนตรี:
คือถ้าเรามองข้าราชการอย่างเดียวก็อาจจะมองว่า ข้าราชการเขาดี มีเงินเดือนใช้ มีอะไรใช้แต่ประชาชนไม่มี แต่ประชาชนนั้นมีโอกาสมากกว่า ถ้าหากว่าเขาขยันขันแข็ง ข้าราชการเค้าไปทำอย่างอื่นไม่ได้นี่ เขาต้องทำเช้าถึงเย็นใช่ไหม รายได้เขาก็มีเท่านั้น เงินเดือน ถ้าไม่ได้ไปโกงใครเขามา ก็มีไปตามขั้นตอนของเขา ไม่ได้มากมายอะไรอยู่แล้ว ภาษีเขาก็เสียเต็ม ใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้น คนที่ไม่มีเงินเดือน ก็ต้องไปดูว่าเวลาของท่านก็มีมากมาย ถ้าขยันก็ได้มาก ถ้าไม่ขยันก็ได้น้อย ก็ต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เงินที่ท่านอาจจะได้มากกว่าข้าราชการเขาด้วยซ้ำไป รัฐบาลต้องอยู่ด้วยกัน ไปด้วยกัน จากข้าราชการกับประชาชนใช่ไหม ร่วมมือกัน ถ้าวันนี้รัฐบาลก็พยายาม จริง ๆ แล้วภาษีทั้งหมดนะ เก็บได้อย่างที่บอก ไม่ถึง 10 ล้าน 10 ล้านคนก็ไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย เงินภาษีนิติบุคคล ภาษี รายบุคคล แล้วก็ภาษีเกี่ยวกับเรื่องการค้าอะไรด้วย เหล่านี้ บางอันก็จดทะเบียนบ้าง ไม่จดบ้าง หนีภาษี เลี่ยงภาษีมากมายไปหมด นี่ก็พยายามจะให้มันเข้าที่ในปี 59
วันนี้ทุกคนก็ร้องขอรัฐบาลต้องไปดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐสวัสดิการไง เรื่อง เดิมก็มีเรื่องอะไร เรื่อง รักษาพยาบาลใช่ไหม เรื่องการศึกษาฟรี ขึ้นรถฟรี วันนี้ก็เราก็ไปดูซิว่าเด็กแรกเกิดรัฐให้ 400 ไปซื้อนมให้เด็กกิน พ่อแม่อย่าไปแย่งเงิน 400 ลูกก็แล้วกัน เด็กแรกเกิดนะเด็กยากไร้ จากเดิม 400 บาท เป็น 600 บาท เบี้ยคนพิการเราก็เพิ่มให้ จาก 500 เป็น 800 เงินทั้งนั้นเลยนั้น แล้วไม่ใช่มันเพิ่ม 300 ไม่ใช่ คนตั้งเท่าไหร่ คูณออกมาตัวเลขมหาศาลเบี้ยคนชราก็ต้องปรับเป็นขั้นบันไดทุกช่วงอายุ 10 ปี 600 ไปถึง 1,000 บาท บางคนบอกขอ 3,000 แล้วมันจะไหวไหม จะเอาเงินที่ไหนมาให้ เราก็มีการส่งเสริมการออม ผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ มาดูซิว่าเดิมนั้น ออมได้ในระหว่างที่ทำงานอยู่ หรืออยู่ในหน่วยงานราชการทำยังไงเมื่อเกษียณแล้วออมต่อได้ไหมก็ต้องแก้ปัญหา เรื่องกฎหมายด้วย ที่ผ่านมาไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้ ก็เฉพาะ พ.ร.บ.การออกมาตราอะไร 40 มั้ง ก็มีประชาชนมาขอบคุณ บอกว่ารอมาหลายสิบปีนั้น แค่เรื่องเดียว ผมก็ทำแล้ว แต่ก็ต้องทำต่ออีกหลายๆ เรื่อง เพราะฉะนั้นรัฐสวัสดิการนั้นสำคัญ ดีทั้งนั้น ชาวบ้านได้ ผมก็พอใจ ชอบใจ ทุกคนชอบหมดแหละ ทุกคนมีความสุข ทุกคนไม่ต้องจ่ายเงินมาก แต่ถามว่าเอาเงินจากไหนนะ ไอ้พวกนั้นไม่ได้มาฟรี ๆ รถวิ่งก็ต้องมีค่าน้ำมัน ค่าซ่อมแซม บำรุงรักษาใช่ไหม รถไฟมันวิ่งเปล่าๆ มันวิ่งได้ด้วยลมเหรอ ก็เติมน้ำมัน เพราะ ฉะนั้น รัฐบาลก็ต้องอุดหนุนเงินเหล่านี้ไป ซึ่งโอเค จำเป็นก็จำเป็น ก็ทำไปเถอะ แต่ก็ต้องหารายได้มาชดเชยสิ่งเหล่านี้ ปีหนึ่งหลายพันล้าน ไม่ใช่หลายพันบาท และพวกอื่นอีกล่ะ รวมกันเป็นเท่าไหร่ แล้วจะเอาเงินจากไหนอีก เงินเราก็มีปีละ 2แสน 7 ล้านบาท หรือ 2 แสน 5 ล้านบาท ประมาณนี้ ในการที่จะจัดทำงบประมาณประจำปี ตอน นี้รายรับก็น้อยกว่านั้นอีก แต่ก็ต้องทำ งบประมาณเกินดุลไง ถ้าเกินดุลนั้นเราหาได้มากกว่า ทีนี้ปีนี้เราทำ สองปี หรือสามปี ที่ผ่านมาทั้งหมดนั่นแหละ งบประมาณขาดดุลหมดแหละ เพราะมันเก็บภาษีได้น้อยกว่าที่มันต้องใช้ ก็โอเค ได้จากเงินกู้บ้างอะไรบ้าง มาชดเชยทำยังไงเราจะไม่ต้องกู้เงินเขาอีก ก็ต้องไปสร้างความเข้มแข็งในประเทศ ไปสร้างวงจรทั้งหมด เมื่อกี้ที่ผมพูดนะ ประชาชน ธุรกิจ ประเทศ ข้ามประเทศ อะไรเหล่านี้ ถ้ามันไปอย่างนั้นได้ มันจะดี ทุกอย่างดีขึ้นทั้งหมดเลยนะ
พิธีกร:
เมื่อวานนี้ที่ท่านนายกพบกับกลุ่มตัวแทนชาวนาก็ได้พูดถึงการยกระดับ คุณภาพชีวิตของชาวนาให้ได้ในทุก ๆ ด้าน ให้สร้างความเข้มแข็งให้ตัวเองด้วย
นายกรัฐมนตรี:
เขามีอยู่แล้ว สหกรณ์นั้นใช่ไหม กลุ่มการเกษตรมีอยู่แล้ว วันนี้ก็ต้องไปเร่งทำเกษตรแปลงใหญ่ การไม่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างเดียว ปลูกข้าวแล้วก็ขาดทุน ไม่มีน้ำก็ตายหมดอย่างนี้ ต้องปลูกอย่างอื่นไปด้วย ก็อย่างที่บอก ต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง เสร็จแล้วก็ไปดูการผลิตของตัวเอง เช่นข้าวก็ต้องมีโรงสีขนาดเล็ก มีเครื่องมือในการคัดแยกกรวดออกจากข้าว ทำนองนี้ เมื่อวานเขาขอผม ผมถามว่าแล้วผมจะให้สักกี่คนล่ะนั้น ก็ปลูกข้าวสักสิบกว่าล้าน ตกลงสิบกว่าล้านเครื่อง เครื่องละเท่าไหร่ เครื่องละห้าหมื่นมั่ง ผมแจกไหวไหมล่ะ ไม่ไหวหรอก ถ้าแจกก็ต้องแจกเป็นกลุ่มๆ เป็นพวกๆ หรือเป็นกลุ่มสหกรณ์นี้ โน้น แล้วเป็นลักษณะไปดูแลช่วยกัน ไม่ใช่เอาทุกอย่างหมดเลย รัฐไม่มีทางให้แล้วอย่างอื่นไม่ต้องให้เหรอ ก็ต้องให้ยาเขาก็ต้องการ อะไรอีก มันสำปะหลัง แล้วอะไรอีก นั้นเราก็ดูตรงนั้น ถ้าเขารวมกลุ่มได้ มีการบริหารราชการ ในลักษณะประชารัฐ เราก็สามารถรวมเป็นกลุ่มๆ ได้ใช่ไหม เครื่องไม้เครื่องมือจัดหาให้ทุกอย่างต้องดูแลหมด ถ้าเขาดีอย่างนั้นเหรอ ตั้งแต่ต้นทางเขาก็ปลูกเอง กลางทางเค้าก็แปรรูปเอง ผลิตเองเล็กๆของเขา แล้วไปสู่การตลาดที่มีบริษัทประชารัฐที่ว่านั้นไปทำเองมันก็จะได้เข้มแข็ง ขึ้น
วันหน้าเขาก็กลายเป็นจากตรงนี้ไปเป็นธุรกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่ขึ้นมา เผลอ ๆก็จะเป็นเถ้าแก่ใหม่ ทุกจังหวัด ก็ต้องเข้าใจอีก เมื่อวานถามเขา เขาบอกยังไม่เข้าใจว่าจะไปทับซ้อนกับสหกรณ์เขาหรือเปล่า ก็พวกนี้จะไปทำเชื่อมต่อกับสหกรณ์เขานะแหละ เขาก็มาอยู่ตรงนี้ด้วยไปอยู่ข้างบนด้วย 100 % ของบริษัท Holding นั้น 76 % มาจาก 76 จังหวัด ไปอยู่ข้างบน ข้างล่างก็มีคนละจังหวัดอยู่แล้ว มันก็เป็นการเชื่อมต่อไม่ใช่เอาข้างนอกเขามายึดครอง พวกธุรกิจเขามาเขาก็จะบริจาคเงินบ้าง อะไรบ้าง ช่วยบริหาร 24 % วันหน้าเขาจะค่อย ๆ ลดลงไป แล้วชาวบ้านก็จะเป็น 100 % ไม่อย่างนั้นเขาทำเองไม่ได้ ใช่ไหม ต้องอธิบาย เมื่อวานนี้ก็เข้าใจบ้าง ก็ไปฟังไอ้พวกบิดเบือน หาว่ารัฐบาลนี้เอื้อคนรวย เอาคนรวยมาเอาอีกแล้วเค้าเรียกอะไร กอบโกย ไม่เคยคิดอย่างนั้น ถ้าคิดอย่างนั้นผมอย่าเข้ามาดีกว่า ไม่มีประโยชน์อะไรกับผมซักอย่าง อยู่แล้วใช่ไหม
อย่างนั้นต้องเป็นยุทธศาสตร์ ทำอะไรก็ต้องตามยุทธศาสตร์ ไม่ใช่นึกจะให้อะไรก็ให้ วันนี้จะให้อย่างนี้ ให้อย่างนั้น พวกนี้ก็เดินแถวมาประท้วง ขอมาก็ให้ไปจบ อีกพวกมาอีก แล้วเมื่อไหร่จะพอ แล้วเมื่อไหร่ วันหน้าจะมาอีกไหม ก็มาอีก แต่ถ้าทำแบบผมทำนั้นวันนี้ค่อยๆ ลดลงๆ วันหน้าผมไม่อยากให้คนต้องมาเดินเสียเวลาตากแดดมาประท้วงผม ประท้วงรัฐบาลหน้าด้วยนะ ผมก็ทำให้วันนี้ก็ยังคัดค้านผมทุกอัน แล้ววันหน้าทำไง กลับไปที่เก่าเหรอ แสดงว่าเขาอยากกลับไปที่เก่านะ ก็ไม่รู้จะว่ายังไง เพราะฉะนั้นรัฐบาล ก็ต้องมาแก้ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ใช้เงินเยียวยา อย่างที่ว่ามันก็บานปลาย ประเทศก็เสียหายใช่ไหมล่ะ
พิธีกร:
ทีนี้มาถึงเรื่องของระบบการบริหารราชการแผ่นดินบ้างค่ะ เพราะว่าหลายๆปัญหานั้นบางทีมันก็เกิดข้อติดขัดเรื่องของความล่าช้าบ้างที่ บางทีจะดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนก็ต้องรอการ นี้นะค่ะท่านนายกคะ เรื่องของระบบราชการนะค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
มันหลายอย่างนะหน่วยราชการตั้งมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เหล่านี้นะ อัตราการจัดไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักหรอก คือสถานการณ์ที่ผ่านมามันตั้งยาก ยุบก็ยากใช่ไหม จะลดตำแหน่งก็ยาก มันยากไปทั้งหมดแหละ วันนี้ก็ต้องปรับรูปแบบการบริหารราชการใหม่ ผมกำลังให้ กพ. (คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) ลองไปคิดดู มันจะต้องเป็นโครงสร้างใหม่ก็คือว่า ตั้งง่าย และ ยุบง่ายด้วย คือ ตั้งหน่วยงานใหม่ๆขึ้นมาเป็นเฉพาะกิจได้ไหม เช่นไอ้นี่มันขาดเราก็ตั้งขึ้นมาใหม่ แล้วก็หาคนที่มีความชำนาญเรื่องนี้มาทำ จะเต็มเวลา Full Time หรือ Part Time แล้วก็อาจจะไม่ต้องมาดูข้าราชการทั้งหมดก็ได้ บรรจุเป็นลูกจ้าง พนักงานแต่มีเงินเดือนสูงหน่อย ใกล้ ๆ กับข้าราชการ แล้ววันหน้าถ้าดีจริงท่านไม่ต้องยุบ งานมันต้องทำต่อ ก็ค่อยๆ ปรับเขาเป็นข้าราชการอีกที เมื่อทุกคนบรรจุเข้าเป็นข้าราชการทีเดียวทั้งหมด มันไปไม่ได้หรอก วันนี้ผมก็ให้ไปดำเนินอย่างนี้นะ มีหลายหน่วยงานขอบุคคลากรเพิ่ม เพราะงานเราเยอะขึ้น มันก็ต้องไปดูทั้งงานบริหารภายใน การบังคับบัญชา การทำงานเซคเตอร์ต่างๆ มันอาจจะต้องมีหน่วยงาน หรือว่าส่วนงานที่ทำเรื่องการบูรณาการด้วย ไม่อย่างนั้นไม่มีคนทำตรงนี้ มันก็เหมือนเดิม ทุกคนก็ทำงานของตัวเองไป แต่ไม่มีคนที่จะไปเชื่อมต่อกับกระทรวงอื่นๆ เค้า ในกิจกรรมอันเดียวกัน แล้วก็อีกอันก็คือทำยังไงบุคคลภายนอกนะ ผมไม่อยากจะว่าใครอีกนะ การเมืองเข้าไปแทรกแซงมากมาย คนข้างใน ทำให้ระบบเสียหาย วัฒนธรรมในองค์กรถูกทำลายไง คนดีดี อาวุโส หรืออะไรต่าง ๆ ไม่ได้ขึ้น ถ้าจะขึ้นก็ต้องทำตามคำสั่ง เห็นใจข้าราชการเขาบ้าง วันนี้ต้องแก้ทั้งหมด ในเรื่องของการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ การปรับปรุงหน่วยงาน โครงสร้าง วันนี้ผมทำเพียงแค่ปฏิรูประยะที่ 1 ให้ทำงานได้ เพราะเวลาจำกัด ก็ใช้วิธีการ ใช้มาตรการภาษี ตั้งซุปเปอร์บอร์ด ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน คณะกรรมการบริหาร บูรณาการเหล่านี้ของ คสช.บ้าง ไปติดตามงานเหล่านี้ วันหน้าพวกที่หายไปจะทำยังไงล่ะ จะมีใครทำหรือเปล่าไม่รู้ ฉะนั้นก็ให้ กพ. ไปศึกษาว่าจะทำอย่างไร เพื่อในช่วงส่งผ่านก็จะเสนอเหล่านี้ไปให้มันเป็นถาวรได้ไหม วันนี้เป็นลักษณะการใช้ไปพลางๆ ก่อน ก็ต้องไล่กันอยู่แบบนี้นะ ถ้าเราทำให้มันเข้มแข็งได้ เขาภูมิใจได้ เขาทำงานในสิ่งที่เขาอยากจะทำ ให้เขามีความคิด เสนอความคิดมา แล้วทำเองบ้าง ไม่ใช่ไปสั่งทุกอัน
วันนี้ที่ต้องไปสั่งทุกอันเพราะเขาไม่เคยไปทำแบบนี้ เขาอยากจะทำ แต่เราก็ต้องนำร่องเขาในช่วงที่ว่าควรจะมีอย่างนั้นได้ไหม ผมไม่อาจไปสั่งเขาด้วย ผมไม่รู้เรื่องซักเรื่องจะไปสั่งเขาได้ยังไง ผมต้องศึกษาของผม แต่เขาก็ต้องมีโอกาสในการทำงานมากขึ้นไง ที่ผ่านมาเขาตามตามคำสั่งอย่างเดียว ไม่ได้สั่งแบบผม ของผมนั้นสั่งทำงาน ของเขาถูกสั่งอย่างอื่นหรือเปล่าผมไม่รู้
พิธีกร:
แล้วการให้บริการพี่น้องประชาชน จะรวดเร็วขึ้นกว่านี้ไหมคะท่านายกคะ
นายกรัฐมนตรี:
วันนี้ก็มีศูนย์ดำรงธรรมไง ถ้าช้าก็ไปร้องทุกข์ได้ ไปหาผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผมให้ผู้ว่ามีอำนาจสิทธิ์ขาดอยู่แล้วในจังหวัดทุกงาน ทุกกระทรวงก็ต้องไปช่วยท่านผู้ว่าฯ พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด อะไรเหล่านี้ ต้องไปอยู่ภายใต้การทำงานในเชิงบูรณาการที่จังหวัดนะ แล้วก็มีกลไกประชารัฐเข้าไปอีก ใช่ไหม แล้วก็มีศูนย์เชื่อมโยงอะไรเยอะแยะไปหดนะ ข้อสำคัญคือทำให้เร็วเถอะ ปัญหาบางปัญหาไม่ต้องไปรอเขาฟ้อง ก็ไปตามเอาซิ งานตัวเอง งานตามฟังชั่นรู้อยู่แล้ว ติดตรงไหนก็ไปแก้ตรงนั้น ปัญหาเราคือล่าช้า ไม่สนใจ ประชาชนมาก็เออๆ รับปาก ไม่ทำ วันนี้ผมไม่ปล่อย ถ้ามาร้องเรียน 2 ครั้ง 3 ครั้ง ผมก็ต้องไปว่าผู้ว่าฯ แหละว่า ว่ายังไง ใช่ไหม ก็ให้เวลาเขาปรับปรุง ตอนนี้ก็ร้องทุกข์เข้ามาเท่าไรล่ะ ศูนย์ ดำรงธรรม เป็นล้านๆ เรื่องแก้ไปได้ 90% มั้ง 97-98% นี่เพียงแค่ 2 ปี ที่ผ่านมานี่ ตั้งศูนย์ดำรงธรรมมานี่ แต่ก่อนเขาเรียกอะไร ศูนย์ทำ แต่ไม่ได้ทำอะไร ศูนย์ดำรงไม่ทำยังไง วันนี้ผมก็ให้เป็นศูนย์ดำรงธรรม ก็คือทำงานด้วย ธรรมะ ด้วย ทำนองนี้ ยังแย่เลยนะ ให้รู้ว่าปัญหาของเขาคืออะไร แล้วแก้ให้เขาส่งหน่วยงาน เขามาร้องที่นี่ ก็ส่งไปที่โน่น ผู้ว่าก็ขับเคลื่อน คสช. ไปเจรจา มันก็จบ ที่ผ่านมาเยอะเกินไป เขาก็ไม่มีใครจี้ เขาก็ไม่ทำ นี่ลดขั้นตอน ลดเวลา แล้วก็แก้ไขให้รวดเร็ว ปัญหาเล็กแก้เลย ถ้าปล่อยไปก็เป็นปัญหาใหญ่ ติดตามมาในอนาคต อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องเร่งนะชักช้าไม่ได้ แล้วมีอะไรอีก พรบ. อำนวยความสะดวก ติดต่อราชการ ทำบัตรประชาชน ใบขับขี่ต้องภายในเท่าไร มีหมดนะ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าทีก็ วันนี้ พรบ. ออกมาแล้ว ฟ้องเอา วันนี้ก็ดีขึ้น นะ
เรื่องโครงสร้างอีกเหมือนกัน ทุกคนอยากจะให้ปรับโครงสร้างๆ ทำไมไม่ปรับ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ผมถึงบอกต้องให้ กพร. เขาศึกษารายละเอียดว่าเป็นยังไง พลเรือน ตำรวจ ทหาร จะเป็นยังไง ถ้าจะลดคน ต้องเพิ่มเทคโนโลยีให้เขาอย่างไร มีงบประมาณให้เขาหรือเปล่า ก่อนที่จะลดคนนี่ หรือจะไปปรับอะไรสักอย่าง ต้องดูกฎหมายด้วย มาดูการทำงานปัจจุบันว่าหยุดไปได้ไหม ก็ไม่ได้อีกทำไงก็ต้องได้เกิดการยอบรับทั้งคู่ ทั้ง 2 ฝ่ายนะ ทั้งคนในองค์กร ทั้งคนอยากจะปรับเขา โดยมีหลักการว่ายังไง ต้องหากันให้เจอ วันนี้ผมก็สั่งไปหลายอันนะ ตอนนี้ผมคิดว่าข้าราชการเขากำลังทำอยู่ ก็คือตำรวจทหารนะ แผนปฏิรูปผมเห็นแล้วล่ะ ระยะแรก ระยะสอง แต่ว่าอาจจะไม่ตรงใจของ สปท. หรือของประชาชนเท่าไร มองอย่างเดียวยังไง ทุจริตเรียกผลประโยชน์ ไม่เป็นธรรม ต้องกลับไปดูซิว่าเกิดจากอะไร แล้วจะแก้ตรงไหนก่อน แก้ที่เดียวจะแก้ได้ยังไง ถ้าแก้ที่เดียวก็ปลดตำรวจทั้งหมดหรือ แก้ได้ไหมล่ะ หรือไปยกเลิกโรงเรียนนายร้อยตำรวจ วันนี้ไม่ต้องผลิตออกมาหรอก แล้วไปรอยุคใหม่โน่น ก็ไม่มีตำรวจไปอีกกี่ปีล่ะ ทำไม่ได้ ก็ต้องทำยังไงให้เขาอยู่ได้ ก่อน แล้วก็อะไรที่ดูว่าไม่สุจริตก็แก้ตรงว่าไม่สุจริตก่อนได้ไหม เรียกร้องผลประโยชน์ก็ลงโทษสถานหนัก อะไรทำนองนี้ ปลดทันที อะไรทำนองนี้ ติดคุกคดีอาญา ด้วย ผู้ให้ก็ต้องโดนด้วย เขาเรียกผลประโยชน์ เขาเรียกได้เพราะท่านทำความผิด ถ้าท่านไม่ผิดเขาก็เรียกไม่ได้ แต่ถ้าเขาเรียกโดยที่ขู่ ข่มขู่ อันนี้ก็ฟ้องศาลเขาซิ ฟ้อง แจ้งความไป นี่แก้แก้เรื่องทุจริตได้ การเรียกผลประโยชน์ไม่ได้ จะเรียกตำแหน่ง เงินตำแหน่งไปหามาซิ นี่วันนี้ เมื่อวานก่อน จับกุมอะไร ไปหลอกลวงที่ศุลกากร ไปอ้างพลเอกประวิตรไง เรียกผลประโยชน์เขาอย่างโน้น อย่างนี้ ทำนี่ ทำโน่น ทางโน้นเขาไม่เชื่อยังไง ก็แจ้งสอบกลับมาก็ ทางนี้เขาบอกไม่รู้จักเลย นี่อย่างนี้ ผมว่ายังมีอีกเยอะ อย่าไปเชื่อไม่มีใครเขาไปเรียกร้องได้หรอก ผมไม่เคยให้โครงการไปกับใครนี่นา ประวิตร เขาก็ไม่ให้ รัฐมนตรีเขาก็ไม่เคยให้ หลายคนบอกทหารเข้ามาเรียกรับผลประโยชน์เหมือนเดิม ไม่มีหรอกครับ ผมไม่ เขาเรียกว่าอะไร หน้าผมไม่หนาพอ ไปเรียกใครเขา
พิธีกร:
เรื่องของความมั่นคงล่ะคะท่านนายกฯ คะ เพราะว่าตอนนี้นี่ รัฐบาลและ คสช. เข้ามาดูแล 2 ปีแล้วนะคะ สร้างความเชื่อมั่น นำความสุขกลับคืนมาให้กับคนไทย แต่ว่าเรื่องของการรักษาความมั่นคงภายใน ก็ยังเป็นเรื่องที่ละทิ้งไม่ได้
นายกรัฐมนตรี:
แล้วอยู่ที่ใครล่ะ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่กลุ่มการเมือง วันนี้ผมไม่เห็นใครบ่นมากมายเท่ากับนักการเมืองเลย มีนักการเมืองเท่านั้นที่วุ่นวายทุกวันนี้ ผมถามว่าที่ผ่านมาเขาทำวุ่นวายไว้หรือเปล่า เออถ้าเขาทำดีมาตลอด ผมจะไปห้ามอะไรเขาล่ะ วันนี้ที่เขาทำ ก็ยังทำเหมือนเดิมอยู่ทุกวันนี้ แล้วบอกว่าจะปรองดอง ให้ผมปรองดองคืออะไร เขาเรียกอะไรนะ นิรโทษมั้ง ยกโทษทั้งหมดเลย ทั้งคนต่างประเทศ คนในประเทศ อ้างนี่โน่น ไปหมดทั้งหมดสรุปว่าปล่อยคนออกจาคุกหมดเลยเหรอ ผมทำไม่ได้หรอกนะ ถ้าจะสงบทุกคนต้องหยุดบ้างนะ หยุดกัน ถ้าท่านไม่ให้ร้ายผม ผมก็ไม่ตอบโต้กับท่าน ถ้าท่านไม่มาขัดแย้งกฎหมาย กฎหมายก็ทำอะไรกับท่านไม่ได้ ถ้าท่านอยากจะกลับบ้าน ท่านก็มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็กลับบ้านได้ ก็มีอะไร ประกันตัว สู้คดี บางคนสู้กัน 10 ปี ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็ตายยังไม่เห็นเข้าคุกเลย คนตายนะ สู้คดีไม่เสร็จ มันมีอายุความทั้งหมด นี่ไม่ยอมซักอย่าง แล้ววันนี้ก็ดึงนี่โน่นมาพาดพิง เยอะแยะไปหมด ถ้าทุกคนรู้อย่างที่ผมรู้นะ จะหนาวอีกเหมือนกันนะ ผมอดทนทุกอย่างแหละ เออ คือแรงไปก็ไม่ได้ ทั้งที่เลวร้ายนะ น่ากลัว ที่เขาทำกันอยู่ทุกวันนี้นะ ถ้าพูดมากๆ ประเทศก็ไม่ปลอดภัย ประเทศก็มีคนเชื่อมมั่น แต่คนเหล่านี้เขาสนใจไหมล่ะ พูดทุกวันนี้ แล้วก็จะมาเป็นรัฐบาลกันอีกหรือ พวกนี้ ผมว่าไม่ไหวนะ ประชาชนคิดเอาแล้วกัน ผมอยากจะมีอำนาจอะไรสักอย่างไม่อยากอยู่ต่อทั้งสิ้น ถ้ามีคนมารับดีๆ ท่านไปเตรียมตัวมาซิ เตรียมตัวให้ดี ไม่ใช่มารบกับผมอย่างวันนี้ เพราะผมทำให้ท่าน คนทั้งประเทศไทย ผมทำให้รัฐบาลใหม่ วันหน้าผมก็ใช้ภาษีเพื่อทาน ผมไม่ได้มาสั่งงานอะไรท่าน อีกแล้ว ท่านจะได้มีเงินมากๆ จะไปทำอะไรของท่านก็ไปทำ เถิด ให้ประชาชน ทำให้ได้อย่างผมทำก็แล้วกัน จะเริ่มใหม่ดีกว่านี้ก็เชิญ วันนี้ผมเอาแบบนี้ เพราะอย่างนั้นต้องอยู่ภายใต้กรอบ ไม่ใช่กรอบเพื่อผม มีความสุขหรือบังคับคน ไม่มีความสุขหรอกครับ ถ้ามีอำนาจนะ อย่างที่ผมเคยมี จะไม่มีความสุข เป็น ผบ. ทบ. มาผมไม่มีความสุข ผมต้องมี 2 อย่างยังไง ให้คุณกับ ให้โทษ ให้คุณก็โอเคมีจำนวนที่จำกัดอยู่แล้ว แต่ให้โทษนี่ คนเยอะยังไง ต้องลงโทษเยอะยังไง ผมบอกแล้ว ผมไม่ใช่คนที่อยากใช้อำนาจกับใครสงสารเขา แต่บางคนก็ไม่น่าสงสารนะ ประชาชนก็ต้องแยกให้ออกนะ อย่าไปให้เขาปลุกระดมต่างประเทศ ต้องช่วยกันพูดซิ นี่พอเขาพูดก็พูดตาม ขยายข่าวเขาไปเรื่อย ก็เท่ากับคนก็รับรู้มากขึ้น ผมพูดคนเดียว ทางโน้นพูดเป็นร้อยคน ผมจะสู้ไหวไหมเล่า แล้วประเทศก็วุ่นวาย ที่เขาประเมินไว้ก็แย่ลง การลงทุนทำให้ดีขึ้น ก็ดีไม่ได้หรอกทั้งหมดนี่เพราะใครล่ะ ไปหามาให้เจอนะ เราต้องสร้างทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ในประเทศต้องสงบ ต่างประเทศเชื่อมั่น ให้เหมาะกับการลงทุนขนาดใหญ่เวลานานๆ ต่อไปวันหน้าผมบอกว่าการลงทุนไม่ใช่ 5 ปี – 10 ปี 20 ปี ลูกหลานเขาเข้ามาตั้งบริษัทในประเทศไทย เขาก็ส่งทอดไปเรื่อยๆ
พิธีกร:
มาถึงเรื่องของการปฎิรูปบ้างนะคะ ท่านนายกฯเน้นย้ำเสมอว่าเราต้องปฎิรูปตัวเองก่อน ทีนี้ก็มีคนฝากฝังและมีความหวังกับรัฐบาลชุดนี้ รวมถึง คสช.ด้วยท่านนายกฯ คิดว่าผลงานการปฏิรูปที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ จะเป็นมรดกของตกทอดให้กับลูกหลานเรา มีอะไรบ้างคะ
นายกรัฐมนตรี:
ต้อง ดูก่อนว่าเรื่องราวเหล่านี้ที่คนฝากฝังอยู่นี่ ใช้คำว่าฝากฝังนะ ก่อนหน้ามาถูกฝังไว้ทั้งหมด ไม่ทำยังไง คือไม่ได้ทำให้เข้มแข็ง ไม่ได้ทำอย่างเต็มกำลัง ไม่ได้เอาใจใส่ ก็ทำ ได้ทำเป็นทำผ่านๆ ข้าราชการก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง วันนี้เราปฏิรูปทั้งหมด ปฏิรูปคน ข้าราชการ ปฏิรูประบบ ประสิทธิภาพ ปฏิรูปองค์กร รับฟังความคิดเห็นจากคนอื่นเขามาแล้วมาแก้ไขตัวเอง การศึกษา ต้องปฏิรูปไหมล่ะ ปฏิรูป มีไม่กี่อย่างหรอกที่ประชาชนต้องการ ปฏิรูปการศึกษาผมถาม การศึกษา ปฏิรูปง่ายๆ หรือ ก็ต้องปฏิรูปขั้นที่ 1 ทำอะไรบ้าง แค่ขั้นที่ 1 ยังต้องออกมาตรา 44 เลย ใช่ไหมเล่า นี่แหละคือสิ่งที่เป็นความยาก การจะไปสั่งครู กี่แสนคนนะ 5 แสนคน แต่ละคน ก็ครูนะ แล้ว พรบ. เยอะไปหมด ก็ต้องแก้ พรบ. ต้องใช้มาตรา 44 ไปรวบ พรบ. ทั้งหมดมาให้เขาสั่งการได้ ที่ผ่านมาเป็นอย่างนั้นอยู่ ใช่ไหม ปฏิรูปเศรษฐกิจ กฎหมายกี่ฉบับ มีกี่ Sector ตอนนี้แค่ไปปรับเรื่องแรงงาน รปภ. วุฒิ ม.3 โวยวายกันใหญ่เพราะพวกนี้ไม่จบ ม. 3 หรอก ผมก็บอกว่าถ้าทำแบบเดิม ไม่จบ ม. 3 เหมือนเดิม พวกนี้ก็ทำงานไม่ได้ เพราะสั่งไปเมื่อกี้นี้ บอกว่ารัฐมนตรีแรงงานไปดูซิ ไปปรึกษากระทรวงศึกษาซิ เอา กศน. มาซิ เปิดหลักสูตร กศน. อย่างเร่งรัดได้ไหม เอาแรงงาน เอา รปภ. ที่ไม่จบ ม.3 นี่ ที่กำลังทำงานอยู่นี่ มาเรียน กศน. ใช้เวลาให้สั้นที่สุด ให้จบ ม.3 แก้อย่างนี้ซิ
พิธีกร:
กลับไปก็ยังไปทำงานแบบเดิมได้
นายกรัฐมนตรี:
อาจจะ ต้องมีมาตรการชะลอให้เขาไปก่อน ไม่ใช่ไล่ออกหมด แล้วก็จะตกงานกัน จะเลี้ยงลูก เลี้ยงเมียได้ยังไง แก้แบบนี้ ไม่ใช่แก้ปัญหาเอา ออกกฎหมายมา ปรับปรุงคุณภาพ จบม.3 จบ แล้วไปทำงานที่ไหน แล้วบริษัท รปภ.ขาดแรงงานไหม ต้องคิดแบบนี้ กระทรวงศึกษาโน่นไปตั้งเอา กศน. ออกมา มีอยู่แล้วล่ะ ทำให้เรียนเร็วขึ้นก็ได้ ทหารผมมา 2 ปีจบ ม.3 ม.6 กันหมด ป.4 เป็น ป.7 อะไรอย่างนี้ เวลาก็มีเท่านั้นแหละ ผมก็ทำให้เขาจบได้ บางคนอ่านหนังสือไม่อก ยังจบเลย ยังอ่านหนังสือได้เลย แล้วก็เรียนจบประถมอย่างน้อย นี่แหละคือสิ่งที่ต้องต่อให้ได้นะ การพัฒนาคน การปฏิรูปคน ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปตำรวจ แล้วก็ลูกอะไรอีกล่ะ ข้าราชการ ส่วนราชการ คือทุกคนให้ผมปฏิรูปให้หมดแหละ ให้ผมใช้อำนาจทุกคนต้องปฏิรูปตัวเองก่อนซิ ต้องช่วยผมปฏิรูปด้วย ไม่ใช่ว่าเออ สร้างความขัดแย้งตลอดเวลา แล้วผมจะปฏิรูปอะไรได้ล่ะ แล้วคนที่ให้ผมปฏิรูปคือใคร ปฏิรูปคือเขานั่นแหละ เพื่อประเทศ แต่ก็ไม่ปฏิรูปตัวเอง ไม่แก้ไขตัวเองทั้งสิ้น วันนี้ก็จะกลับมาเหมือนเดิม แล้วผมจะปฏิรูปให้ใครล่ะ ก็เห็นใจผมบ้างซิ
วันนี้ก็กดดันเยอะพอสมควร ทุกคนฝากฝัง แต่ก่อนเขาฝังกันไว้ก็ไม่เห็นใครเข้าไปขุดเขากันนี่ ก็ไม่ได้ทำนะ อย่าหาว่าผมประชดประชันนะ การปฏิรูประบบพูดไปแล้ว วันนี้เรืองเศรษฐกิจ เรื่องอะไรต่างๆ ประชารัฐทั้งหมด แก้ปัญหาได้หมด แต่สำคัญคือความเข้าใจใช่ไหม วันหน้าต้องเดินประเทศไป 20 ปี วันนี้ท่านสมคิดก็ไปเตรียมวางแผนว่า 5 ปีข้างหน้านี่ผมต้องการนี่เราจะเข้มแข็งได้แต่ไหน นะวันนี้เดินสายอยู่ต่างประเทศ การลงทุน การปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจ การลงทุนในประทศไทย จาก 5 อย่างเดิม บวก 5 อย่างใหม่ ปรับไทยไปสู่การเป็น Thailand 4.0 S ที่ว่าเมื่อกี้นี้ นั่นคือเศรษฐกิจนอกประเทศ เชื่อมโยงในประเทศ ในประเทศ ปฏิรูปข้าว ปฏิรูปเกษตรกร ข้าว มัน อ้อย ปฏิรูปหมด ทั้งหมด วันนี้ปฏิรูปเอาเพียงแค่เขามีรายได้ ปฏิรูปแล้วนะ ยังยากเลย ถ้าปฏิรูปทั้งโครงสร้างทั้งระบบ ทั้งประเทศยากกว่าไหมล่ะ นี่มองตรงนี้ ถ้าเราแบ่งแผนปฏิรูปไปได้นะ แล้วต่อจากที่ผมจะทำ ปี 60 นี่ วันนี้เราทำมาตั้งแต่ 57 ใช่ไหม 57-58, 58-59, 59-60, 3ปี จะเสร็จอะไรบ้าง เดี๋ยวจะชัดเจนขึ้นนะ ผมจะสรุป 2 ปีให้ดู แล้ววาดภาพให้ดูว่าอะไรที่ผมทำไปแล้วบ้าง ปฏิรูป แล้วจะส่งต่อไป 5 ปีต่อไปยังไง แล้วรัฐบาลหน้าก็เชิญรับไปเถอะนะ จะทำไม่ทำก็เรื่องของท่าน ถ้าผมไม่อยู่ ผมไม่ยุ่งอะไรกับท่าน ก็เป็นเรื่องของประชาชนไปดูนะ ปฏิรูป Reform ไม่ใช่สั่งแล้วทำ ทำแล้วเสร็จ ไม่ใช่ ปฏิรูปเขาเรียกว่ายึดโยง ปฏิรูปต้องทำใหม่ทั้งหมด
เรื่องแรงงานก็ตั้งแต่คัดแรงงานให้ถูกประเภท พัฒนาฝีมือแรงงานผลิตให้ตรงกับความต้องการตลาด กี่เรื่องแล้วนี่ ทุกอย่างโยงกันไปหมด ต้องทำให้ต่อเนื่องนะ วันหน้าต้องเชื่อมโยงด้วยยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี ในการที่จะให้ทุกพรรคการเมืองเดินหน้าตรงนี้ไปหน่อย ที่เหลือ อันนี้ต้องทำร่วมกัน พรรคไหนเป็นรัฐบาลก็ต้องทำ ต้องทำแบบนี้ ทำตรงนี้ไปก่อน เพราะนี่เป็นอนาคต ที่เหลือเขาจะไปทำตามยุทธศาสตร์พรรค อะไรก็ว่าไปของเขาเพื่อจะให้เกิดความแตกต่างจากพรรคอื่นๆ เพื่อจะได้คะแนนเสียงมาก็เรื่องของท่าน แต่อย่าทำให้ยุทธศาสตร์ชาติเสียหาย การใช้จ่ายงบประมาณของประเทศเสียหาย ไม่มีการทุจริตโกงกิน คอรัปชั่นก็จบ แค่นี้แหละ จะไปยากอะไรเล่า
พิธีกร:
ต่อยอดกันไปจากรากฐานที่แข็งแรงแล้วแบบนี้นะคะท่านนายกฯ คะ ที่นี้มาถึงช่วงสุดท้ายของรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ก็เป็นข้อคำถามที่ฝากมาจากภาคประชาชนวันนี้ก็มีหลากหลายข้อ เริ่มที่เรื่องของแหล่งก๊าซธรรมชาติ ในอ่าวไทยก่อนค่ะ ท่านนายกฯ คะ ที่จะหมดสัมปทานในช่วงปี 2565 – 2566
นายกรัฐมนตรี:
ก็คงเป็นแหล่งบงกช –เอราวัณ ซึ่งก็เป็นแหล่งก๊าซที่สำคัญในประเทศ แต่ปริมาณไม่มากนักหรอก ได้อีกไม่กี่ปี ในระหว่างนี้ใช้อยู่ทุกวัน ถ้าหมดไป หมดสัมปทานไปแล้ว และไม่มีการทำต่อเลย ก็ไม่มีคน ยังไม่หมดหรอก อาจจะหมดในระยะต่อไป หลังจากที่หมดสัมปทานไปแล้วนะ แต่ถ้าระหว่างนี้เราต่ออะไรกันไม่ได้สักอย่าง สัมปทานก็ไม่ได้ ประมูลก็ไม่เอา แล้วจะไปขุดเจาะเอง บริษัทยังไม่มีเลย เครื่องมือสักชิ้นยังไม่มีเลย ใครทำไว้ล่ะ ถ้าวันนี้มีเครื่องมือมีบริษัทเจาะเอง ขุดเอง ก็ได้ล่ะ ทำได้เลย เขาหมดอายุก็ไล่เขาออกไปให้หมด มันไล่ไม่ได้ เรายังไม่เข้มแข็งเพียงพอตรงนี้นะ
แล้วอันที่สองก็คือว่า หลายคนก็เสนอว่าไปทำวิธีการอื่น ก็พรบ.ก็เพิ่งกำลังทำอยู่ ออกมาแล้วก็ทำได้หมดแหละ แต่สำคัญว่าพร้อมหรือยังล่ะ พรบ. พร้อม คนไม่พร้อม เครื่องมือไม่พร้อม แล้วระหว่างนั้นทำอะไรไม่ได้เลย แล้วถ้าแก๊สตรงนี้ไม่ต่อ ยังใช้ไม่ได้ เพราะว่ายังไม่มีคนลงทุน ผมถาม ถ้าหายไปกว่า 2 ล้านล้านลูกบาศก์ มั้งลูกบาศก์เมตรมั้ง ก๊าซนี่ อันนี้คือก๊าซที่ใช้ในประเทศนะ แล้วทำยังไงก็ต้องไปซื้อข้างนอกมาเพิ่มวันนี้หลายประเทศเขาก็ปิดท่อบ้างอะไรบ้าง เขากำลังพัฒนาวันหน้าเขาขายลดลง แล้วจะเอาก๊าซที่ไหนใช้ พลังงานจะมาจากไหน คิดตรงนี้ซิครับ ท่านจะบอกว่าเออ ขุดเองก็ได้ ใช้เอง เอามาใช้เอง กำหนดราคาเอง ผมถามว่าไม่ต้องถูกควบคุมเลย ราคาโลกเขาหรือ ขุดเองใช้เองนี่นะ ตั้งราคาให้ถูกที่สุด คนไทยใช้ถูกกว่าเขานี่ ตั้งได้ที่ไหนล่ะ ทุกคนในโลกเขาคิดแบบนี้ได้ที่ไหน ทุกประเทศเขาขุดเจาะมา แล้วมาขายในราคาตลาดโลก เพียงแต่ว่าที่คนเขาใช้ได้ถูก ประเทศรอบๆ บ้านเขาถูก เขา Subsidize เอาเงินใส่เข้าไป วันนี้เขาไหวไหมล่ะ เขาดึงกลับมาหมดแล้ว ลอยตัวหมดแล้ว ก็ซื้อราคาเดียวกับเรานั่นแหละ ที่ผ่านมาเขาถูกกว่าเราก็พูดอยู่นั่นแหละ ถูกกว่าๆ ไปดูซิ เขา Subsidize อยู่ เขาถอดออกมาก็เท่าๆ กัน แพงกว่าเราด้วยซ้ำไป บางที่ ทั้งๆที่เขามีแก๊สมากกว่าเรานะ นี่ไปดูตรงนั้น จะมาบอกว่าเรามีแก๊สเยอะ เยอะยังไงล่ะส่องดูเฉยๆ เห็นหรือ หรือฟังเขาลือ เขาพูดมา ถ้ามันเยอะกว่านี้ก็ไม่ต้องไปรอใครมั้ง เขามารุมเจาะแล้วล่ะ ไม่ต้องมาจ้าง ไม่ต้องอ้อนวอนเขามาทำหรอก อยู่เฉยๆ เขาก็มา เขามีข้อมูลแล้วทั้งโลกแหละ ก็มาดูซิว่าข้อมูลพื้นฐานเขามีอย่างไร ในประเทศไทยแหล่งแก๊ส แหล่งน้ำมัน เป็นกระเปาะๆ เล็กๆ จะขุดเองให้มันสิ้นเปลืองทำไมล่ะ ลงทุนสูงนะ ต่อไปแต่ละหลุม แต่ละบ่อ ใช้เงินเป็นพันๆ ล้านนะ แล้วถามว่าเจาะไปแล้วไม่เจอมีไหม ไม่เจอ ถึงต้องเจาะ 10 ปี 20 ปี สัมปทานนั่นยังไงเล่า ถ้าเจาะเจอทุกวัน ทุกวัน จะสัมปทานอะไรนักล่ะ วันนี้ต้องเข้าใจกัน วันนี้บอกว่าเราจะไม่ให้เจรจา ไม่ต่อสัมปทาน แล้วไปประมูล ประมูล อ้าว เดี๋ยวเอื้อประโยชน์อีก ต้องให้ทำอะไรนี่ ให้ผมทำอะไร เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ให้ทำอะไร วันหน้าประกาศไว้เลย ถ้าทำอะไรไม่ได้นี่บอก แหล่งบงกช กับแหล่งเอราวัณนี่ คปพ. กรุณามารับผิดชอบด้วยนะ ประชาชนก็ไปเล่นงานเอาแล้วกัน เพราะเขาเป็นคนทำให้ท่านต้องซื้อก๊าซแพงขึ้น เพราะต้องไปซื้อต่างประเทศมาผลิตมากขึ้น คิดบ้างหรือเปล่า ผมมีเวลา 1 ปีเท่านั้นแหละที่เขาจะลงทุน หรือไม่ลงทุน ปีหน้านี่ แล้วผมถาม ท่านตั้งบริษัททันไหมล่ะ ตั้งบริษัทขุดเจาะน้ำมันเอง ทันไหม มีเทคนิเชียล พอไหม ไม่มีทั้งนั้นล่ะ เพราะไม่เคยเตรียมไว้เลย แต่อาจจะถูกก็ได้ที่ไม่เตรียมเพราะอะไร เพราะแหล่งพลังงานเราน้อย ลงทุนพวกนี้อาจจะไม่คุ้ม ก็ต้องมามองปัญหาของเราด้วยซิ ขอให้ทุกคนเข้าใจแล้วกัน
หลายคนต้องการน้ำ แต่สร้างเขื่อนไม่ได้ หลายคนต้องการแก๊ส แต่ขุดเจาะไม่ได้ หลายคนต้องการพลังงานสะอาด แต่ไม่ให้สร้าง หลายคนอยากสะอาด ไม่ต้องการให้มีขยะ แต่สร้างโรงขยะไม่ได้ แล้วจะไปยังไงล่ะ กลับมาโทษว่ารัฐบาลทำอะไรไม่สำเร็จนี่ไง ความไม่เข้าใจ อยู่ที่อะไร การรับรู้ ใช่ไหม การเรียนรู้ จิตสำนึก เยอะแยะไปหมด คนเลวก็เยอะ ที่ชักชวนให้เสียหายอยู่วันนี้
พิธีกร:
มีเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการเมืองด้วยนะคะ ที่ประชาชนฝากมา เรื่องของการเคลื่อนไหวของนักโทษการเมือง กลุ่มนักศึกษาเอง กลุ่มการเมืองเอง ที่อาจจะออกมาแล้วก็สร้างบรรยากาศ
นายกรัฐมนตรี:
แล้วผิดกฎหมายไหมล่ะ ก็เอากฎหมายมาว่ากัน ถ้าผิดแล้วก็ทำให้เกิดความไม่สงบ วุ่นวายก็ต้องใช้กฎหมาย ใช้กฎหมายแล้วก็บอก ไม่เป็นธรรม หรือไปรังแกเขา ถูกไหมล่ะ ถ้าทุกคนอยากให้สงบก็อย่าไปยุ่งกับเขามากนัก การเมืองไม่ใช่จะเป็นจะตายวันนี้หรอก เอาการบ้านมาดูก่อน การบ้านคือ การกินการอยู่ เศรษฐกิจโน่น ไอ้นี่การเมืองๆ หมด แล้วที่ผ่านมาการเมืองทำให้ประเทศเป็นอย่างนี้หรือเปล่าเล่า ต้องไปดูตรงนั้นนะ ผมว่านะ ก็อยากจะฝากไว้ด้วยว่าอย่าไปขยายความให้เขามากนัก นะ การเมืองใช่ สำคัญในอนาคต การเมืองวันนี้คือการเมืองแบบนี้ ที่เราต้องทำกันอยู่วันนี้ ก็คือทำยังไงให้ปรับโครงสร้างให้ได้ ทำปฏิรูปให้ได้ ในขณะเดียวกัน การเมืองก็ต้องนิ่ง ถึงต้องมีอำนาจโน่นนี่ให้นิ่งไง ถึงจะทำที่พูดมาทั้งหมดได้ ถ้าทุกคนยังเดิน เคลื่อนไหวไปโน่น ไปนี่ต่อต้านกันหมด จะไปทำอะไรได้ มีเวลาต้องไปจับคนพวกนี้ เสียเวลา ไปล้อมๆ กัน ผมบอกว่าไม่ต้องไปล้อมเลิ้ม ยังไงก็ออกมาไม่ได้อยู่แล้ว วันหน้าก็ต้องออกอยู่ดี เสียเวลา บุกจับ เปลืองตัวเปล่าๆ สังคมก็ดูเอาแล้วกัน คนทั้งประเทศก็ดูเอาแล้วกัน พุทธศาสนิกชนก็ดูแล้วกัน ถ้าทุกคนต่อต้านผม ต้องการแต่ต่อต้านก็รับผิดชอบเอง เกิดอะไรขึ้นก็เกิดด้วยกัน ผมทำให้ท่านแล้วนะ ผมขอแค่นี้เอง เรียกมาคุยก็ไม่ได้ ทีเวลาไปด่าผมโครมๆ ได้ เออดีไหมล่ะ เรียกมาคุย เรียกมาบอก ขอให้เลิก ก็ไม่เลิก แล้วบอกว่าผมบังคับเขา ผมเรียกมาคุยนะ เรียกไปในค่ายก็คุย วันนี้เรียกมาข้างนอกก็หาเรื่องอีก ก็เหมือนเดิมแหละ อะไรทำนองนี้ เชิญเสด็จมาแล้วกัน
พิธีกร:
ประชาชนเองก็ห่วงในเรื่องของปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นด้วยนะคะ ตอนนี้ในเรื่องของการปราบปราม การแก้ไข ทำได้ดีขึ้นมากไหมคะ
นายกรัฐมนตรี:
ก็ดีขึ้นมาก ก็ลดลงไปได้เยอะนะ แต่จะ 100% ไหมล่ะถ้าจิตสำนึกคนยังไม่แก้นะ ก็อย่างที่บอกยังไง ที่ไปแอบอ้างกันทำโน่นทำนี่ เอาชื่อคนโน้นคนนี้ไปอ้าง โครงการนี้ โครงการนั้น อาจจะต้องมีอยู่นะ แต่ผมยังหาไม่เจอไง เท่าที่เจอก็จับไปหมดแล้ว แต่ก็ยังมีคนพูดอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องแต่งตั้งตำรวจ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรต่างๆ ช่วยบอกมาหน่อยซิ เพราะผมไม่เคยไปสั่งให้ไปโกง ไปเรียกผลประโยชน์ ให้ผมนะ ไม่เคยสั่ง ให้ไปทำงาน ให้เอาเงินนี่ไปทำงาน โครงการทุกโครงการลงไปหลายแสนล้านนี่ ลงไปทำงานให้กับเขา ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ประชาชน ไม่ใช่ไปต่อยอด ไปโกง เอาโครงการไปทำ แล้วส่งเงินรัฐบาล ไม่ใช่เลย ผมไม่เคยทำ ทั้งชีวิตผมไม่เคยทำแบบนี้ แล้วพวกผมก็ไม่ทำหรอก รัฐบาล สถานการณ์อย่างนี้ใครจะไปทำได้ ผมไม่เข้าใจนะ
เรื่องทุจริตต่อไปนี้มีทั้งของรัฐ มีทั้งองค์กรอิสระ มีทั้ง คตร. มีทั้ง พรบ. อำนวยความสะดวก แล้วมีทั้งองค์กรภาคีต่อต้านคอรัปชั่นของภาคเอกชนเข้าไปอีก ทุกอันแหละ ว่อนไปหมดล่ะ จะเห็นได้ว่าหลายอย่างนี่ช้าเพราะว่าต้องตรวจสอบกันเยอะยังไง ไอ้นี่ตรวจแล้ว ไอ้นี่ตรวจอีก ไม่ไว้ใจ ตรวจไปตรวจมา คือสรุปว่าตรวจไม่รู้กี่ตรวจ แล้วก็เลยทำไม่ได้ เบิกจ่ายงบประมาณไม่ได้ อะไรทำนองนี้
คือถ้าทุจริตชี้มาเลยว่าทุจริต หยุด ทำใหม่ เปิดประกอบการรายใหม่ ไอ้นี่พอหยุดปั๊บ เข้าดำเนินการใช่ไหม คาอยู่นั่นแหละ ทำไม่ได้ต่อ เหมือนคลองด่านยังไงเล่า กี่ปีแล้วนี่ ฟ้องร้องกลับไป กลับมาอยู่นี่ ถ้าต้องแก้อย่างนี้ว่า หยุดตั้งแต่ต้น ด้วยหลักฐาน ด้วยการทำความผิด แล้วลงโทษไป เอาคนใหม่มาทำ ไม่ใช่หยุดไว้ทั้งหมด เป็นของกลางทางคดียังไง ดองเป็น 10 ปีโน่น วันหน้าก็ใช้อะไรไม่ได้อีก เสียหาย เพราะฉะนั้นไปดูซิว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้างนะครับ ข้อสำคัญปลูกจิตสำนึก ตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่โรงเรียน อย่าไปโกงใคร พ่อบอกพ่อ ถ้าพ่อเกิดไปโกงนี่ พ่ออย่าโกง หนูอายเขา ไปโรงเรียนเขาชี้หน้าว่าลูกคนโกงอะไรอย่างนี้ ใช่ไหม แต่บางคนไม่อายนะ ไม่รู้เหมือนกัน มีสตางค์
พิธีกร:
ขอบพระคุณนะคะท่านนายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ
นายกรัฐมนตรี:
วันนี้ว่าจะไม่ดุเดือดก็เอาจนได้ ไม่อยากทำลายบรรยากาศนะ บรรยากาศที่กำลังดี ๆ อยู่ ไปสู่การทำประชามติในสิ่งที่ดีสิ่งดี ๆ ที่นักกีฬาเขานำมา ผมก็พยายามไม่หงุดหงิดอยู่แล้ว วันก่อนชาวนาก็ขอบคุณแล้ว ขอบคุณอีก ผมบอกว่าผมต้องขอบคุณท่านมากกว่าเพราะท่านร่วมมือกับผม ท่านมาขอบคุณผมทำไม หน้าที่ของผม ไม่ต้องมาขอผมก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้นก็เป็นบุญคุณกันไม่จบไม่เลิก เขามีบุญคุณกับผม เขาปลูกข้าวให้ผมกินใช่ไหม ผมก็ต้องดูแลเขา คิดแบบนี้ซิจะได้หาอะไรทำให้คนอื่นเขาได้ทั้งวัน คิดทั้งวัน สั่งได้ทั้งวัน นั่นแหละนะ แต่คนทำก็เหนื่อยหน่อย ธรรมดา ขอโทษด้วยแล้วกันนะ ผมติดตามทุกเรื่องที่สั่งลงไปนะ โอเคนะ
พิธีกร:
ค่ะขอบพระคุณท่านนายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขอบคุณค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
ขอบคุณครับ
พิธีกร:
คุณผู้ชมคะ บรรยากาศดี ๆ นั้นกำลังจะเกิดขึ้นแล้วก็มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมากมายนะคะที่จะเป็นกำลังใจให้กับคนไทยรวมไปถึงการทำงานของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาตินะคะ พยายามกันอย่างเต็มที่ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยค่ะ เพราะว่าหลายปัญหาก็ฝังรากลึกลงไปนะคะ ก็ใช้เวลากันในการแก้ไขเพื่อที่จะนำความสุขกลับมาให้กับคนไทยได้ยืนได้อย่าง แข็งแกร่งแล้วก็ยั่งยืนนะครับ วันนี้ขอบพระคุณนะคะสำหรับการติดตามรับชมและรับฟังสำหรับรายการคืนความสุข ให้คนในชาติ ท่านนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมทั้งดิฉัน ลาคุณผู้ชมตรงนี้นะคะ สวัสดีค่ะ
นายกรัฐมนตรี:
สวัสดีครับ
—————————–
ที่มา : Thaigov.go.th