“ฮันนี่เวลล์” เลือกลงทุนไทย บุกตลาดอาเซียน เหตุเศรษฐกิจโตดี รอรับอานิสงส์รัฐบาลลุยโครงสร้างพื้นฐาน ดันบริษัทโตไม่ต่ำกว่า 10%

นายไบรอันด์ เกรียร์ ประธานบริษัท ในเครือฮันนี่เวลล์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เปิดเผยว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมในยุค 4.0 หรือในวันข้างหน้าเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในรูปแบบอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการรวบรวมข้อมูลเกินคอมพิวเตอร์ธรรมดา จึงมีความเป็นไปได้ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้ารูปแบบการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ จะเปลี่ยนไปคาดว่าจะมีการใช้ระบบจัดเก็บข้อมูล (คลาวด์) มากขึ้น เนื่องจากใช้ต้นทุนน้อยแต่ให้ประสิทธิภาพสูง

“อย่างไรก็ตาม มองว่าในปัจจุบันเป็นยุคของเอเชีย เนื่องจากมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจดีเมื่อเทียบกับประเทศกลุ่มตะวันตก สังเกตได้จากรายได้ของฮันนี่เวลล์ในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้น 3 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะไทยที่ชุมชนเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความต้องการด้านพลังงานและทรัพยากร รวมทั้งด้านการลงทุนก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ฮันนี่เวลล์จะมาลงทุนในอาเซียนโดยเลือกไทยเป็นประเทศแรก เนื่องจากมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน”

นายไบรอันด์กล่าวว่า หากมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้อย่างน้อย 10% ต่อปี ทั้งนี้ในปัจจุบันฮันนี่เวลล์มีธุรกิจหลัก 4 กลุ่มคือ 1.ผลิตภัณฑ์และการบริการด้านการบินและอวกาศ อาทิ การวางระบบกลไกและระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของสายการบินไทย 2.ธุรกิจระบบการคมนาคมขนส่ง อาทิ การผลิตเทอร์โบชาร์จเจอร์ให้นิสสันสำหรับรถบรรทุกขนาดเล็ก 3.ธุรกิจวัตถุดิบประสิทธิภาพและเทคโนโลยี อาทิ การให้บริการที่ปรึกษาในอุตสาหกรรมการกลั่นปิโตรเลียม ปิโตรเคมีและกระบวนการเกี่ยวกับก๊าซให้กับปตท. และ 4.ธุรกิจเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านที่พักอาศัย อาคาร และโซลูชั่นด้านความปลอดภัยและการเพิ่มผลผลิต อาทิ ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย

นายไบรอันด์กล่าวว่า แผนการทำธุรกิจในปี 2559 บริษัทพยายามจะลงทุนในทุกกลุ่มธุรกิจเพื่อบริหารความเสี่ยงตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ในปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งนี้สำหรับทิศทางการทำธุรกิจในปี 2560 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปี 2559 และคาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มอีก 3 โครงการ ในส่วนโซลูชั่นและการขยายโรงงาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ ส่วนแผนการทำธุรกิจ 5 ปี (2560-2564) บริษัทตั้งเป้ารายได้ในไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์เติบโตเกือบ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากรายได้ปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 3 ประเทศอยู่ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1477027702#