สาระกงสุลน่ารู้ ฉบับที่ 19 : เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนนามสกุลดีนะ? สำคัญหรือไม่ อย่างไร?

การเปลี่ยนนามสกุลเป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่มีประชาชนให้ความสนใจสอบถามกันเข้ามาค่อนข้างบ่อยสำหรับฝ่ายกงสุลค่ะ หลายๆ ท่านที่สมรสกับชาวต่างชาติ และต้องการเปลี่ยนไปใช้นามสกุลตามสามี หรือไม่เปลี่ยนนั้นไม่มีผลต่อการมีสถานะสมรสเพราะกฏหมายไทยเองก็ยินยอมให้ฝ่ายหญิงใช้นามสกุลเดิม หรือใช้นามสกุลสามีก็ได้ ถ้าคุณจดทะเบียนสมรสในต่างประเทศ คุณไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนเป็นนามสกุลสามี (ทันที) เพราะในหลายๆ ประเทศ เช่น อเมริกา กฎหมายยินยอมให้ฝ่ายหญิงใช้นามสกุลเดิม หรือจะใช้นามสกุลสามีก็ได้ ฉะนั้น คุณสามารถเลือกได้ ยกเว้นในกรณีที่ประเทศที่คุณไปอยู่นั้นมีกฎบังคับว่า คุณต้องเลือกถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง ไม่ยอมให้ถือสองสัญชาติ

อีกกรณีหนึ่งที่เป็นคำถามยอดนิยมที่เข้ามาฝ่ายกงสุลคือ กรณีที่คุณทำกรีนการ์ดเป็นนามสกุลสามี แต่ยังถือพาสปอร์ตไทย เป็นชื่อสกุลเดิม บางคนเกรงว่าเป็นปัญหาเวลาเดินทาง แนะนำว่า เมื่อถึงเวลาที่คุณจะต้องเดินทางให้คุณซื้อตั๋วเครื่องบินเป็นชื่อเดียวกันกับพาสปอร์ต แล้วควรพกสำเนาทะเบียนสมรส ติดกระเป๋าไปด้วย หากเจ้าหน้าที่สอบถามถึงเอกสารอื่นๆ ให้คุณนำสำเนาทะเบียนสมรส หรือกรีนการ์ดให้เจ้าหน้าที่ เป็นการยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่คุณสามารถสอบเป็นพลเมืองอเมริกัน (ซิติเซ่น) แล้วนั้น คุณสามารถเลือกที่จะใช้นามสกุลตามสามีในเล่มพาสปอร์ตอเมริกันได้

หากจะพูดกันจริงๆ แล้ว การเปลี่ยนนามสกุลให้ตามคู่สมรสนั้น ไม่ได้มีกฎ หรือข้อบังคับตายตัวว่าบุคคลที่สมรสแล้วต้องเปลี่ยนนามสกุลทันที สามารถทำได้ตามสะดวก และถ้าจะหยิบยกข้อดีของการใช้นามสกุลเดิม (ก่อนสมรส) อยู่นั้น ก็คือการที่เอกสารต่างๆ ยังเป็นชื่อสกุลเดิมนั้น คุณไม่ต้องเป็นธุระเปลี่ยนเอกสารทุกอย่างที่มี การเปลี่ยนชื่อในเอกสารต่างๆ นั้นก็มีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น และคุณยังสามารถทำนิติกรรมหลายๆ อย่างได้ด้วยตนเองค่ะ ถ้าถามว่า ….ความจำเป็นที่ต้องแก้ไขชื่อสกุลในเอกสารมีเพียงอย่างเดียวคือ ยื่นคำขอเปลี่ยนบัตรประชาชนไทย พร้อมขอแก้ไขชื่อสกุล ในทะเบียนบ้าน (ประเทศไทย) ในคราวเดียวกัน ส่วนเอกสารอื่นๆ เช่น บัญชีธนาคาร ใบขับขี่ ประกันสังคม ฯลฯ ไม่จำเป็นต้องรีบแก้ (ถ้ายังไม่สะดวก) เนื่องจากเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยึดหลักบัตรประชาชนสามารถยืนยันตัวบุคคลได้เสมอ

ขั้นตอนการเปลี่ยนนามสกุล :
• เปลี่ยนเนื่องจากสมรสหรือหย่าไม่สามารถทำได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ผู้ร้องจะต้องทำการยื่นขอบันทึกสถานะแห่งครอบครัวและขอเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนบ้านที่อำเภอหรือเขตที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ประเทศไทย โดยนำทะเบียนสมรส/หย่าสหรัฐฯ ที่ผ่านการรับรอง Infor Graphic เปลี่ยนนามสกุล (คลิกที่นี่) ไปด้วย หลังจากนั้นจึงจะสามารถทำหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนเพื่อให้นามสกุลเป็นปัจจุบัน

• หากท่านไม่สามารถเดินทางไปดำเนินการที่ประเทศไทยด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ ในขั้นตอนนี้เองที่ท่านจะต้องยื่นเอกสารเพื่อทำเรื่องกับฝ่ายกงสุล ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ สาขาที่รับผิดชอบเขตอาณาของมลรัฐของท่านค่ะ

• ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนนามสกุล/การรับรองเอกสาร/การมอบอำนาจ ได้ที่ อีเมลล์ Legalization@thaiembdc.org ประจำสำนักงานกรุงวอชิงตัน ดีซี

• เมื่อขั้นตอนการทำเอกสารเรียบร้อยจากฝ่ายกงสุล ประจำสำนักงานในต่างประเทศแล้ว (เอกสารสหรัฐฯ) ท่านจึงนำเอกสารที่ได้ไปติดต่อที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อนำเอกสารสหรัฐฯ นั้นไปแปลเป็นภาษาไทย และผ่านการรับรอง จากนั้นจึงสามารถนำเอกสารฉบับนี้ไปติดต่อขอปรับสถานะทางครอบครัวกับสำนักงานเขตที่ท่านมีทะเบียนบ้านอยู่ เป็นลำดับต่อไป

สำหรับการยื่นเรื่องขอเปลี่ยนนามสกุลกับทางฝ่ายกงสุล ประจำสำนักงานกรุงวอชิงตัน ดีซี จัดเป็นหัวข้องานบริการด้านนิติกรณ์ ซึ่งมีการบริการทำเอกสารตั้งแต่การรับรองลายมือชื่อในเอกสารไทย (มอบอำนาจ) / การรับรองสำเนาเอกสารราชการไทย / การรับรองคำแปลเอการราชการไทย / การขอหนังสือรับรองเพื่อใช้ผ่อนผันเกณฑ์ทหาร ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3-5 วันทำการ
ค่าธรรมเนียม $15 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : http://thaiembdc.org/th/ และติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ
(ฝ่ายกงสุล) ได้ที่งานนิติกรณ์ โทรศัพท์ (202)640-1439 อีเมล์: Legalization@thaiembdc.org ท่านสามารถดูข้อมูลการเปิดให้บริการ และวันหยุดราชการของทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่ http://www.thaiembdc.org

 

(ณัฐพร ซิมเมอร์แมน – รายงาน)
5 กันยายน 2560