นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว เพื่อกระชับความเป็นพันธมิตรทางความมั่นคงและความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ


เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว โดยผู้นำทั้งสองคนได้เห็นชอบที่จะกระชับความเป็นพันธมิตรทางความมั่นคงและความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มากยิ่งขึ้น

เมื่อเดินทางถึงทำเนียบขาว นายกรัฐมนนตรีและภริยา รองศาสตราจารย์ นราพร จันทร์โอชา ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดีทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ก่อนเดินทางไปยังห้องทำงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Oval Office) เพื่อหารือกัน ซึ่งในการหารือดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวไทยที่มีให้กับประธานาธิบดีทรัมป์และชาวอเมริกันอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่น่าเศร้าที่เกิดขึ้นที่นครลาสเวกัสและความเสียหายที่เปอร์โตริโกจากพายุเฮอร์ริเคน นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเชื่อมั่นในความเข้มแข็งของชาวอเมริกันและกล่าวกับประธานาธิบดีทรัมป์ว่าชาวไทยยืนอยู่เคียงข้างชาวอเมริกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

ผู้นำไทยและสหรัฐฯ ได้ชื่นชมประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์และมิตรภาพอันยาวนานเกือบ 200 ปีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเกือบ 185 ปี ที่เริ่มต้นในสมัยอดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ แจ็กสัน ผู้ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้ความชื่นชม  นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองได้เน้นย้ำความสำคัญของกระชับความเป็นพันธมิตรไทย-สหรัฐฯ เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกต่อไป รวมทั้งต้องการเห็นมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ในระหว่างการหารือช่วงรับประทานอาหารกลางวันซึ่งมีสมาชิกคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสของทั้งสองประเทศเข้าร่วมด้วย ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันในหลากหลายประเด็นทั้งในมิติความสัมพันธ์ทวิภาคีและประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยทั้งสองฝ่ายตั้งใจที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในอนาคตเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศพันธมิตรทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะสามารถร่วมกันรับมือกับความท้าทายทางความมั่นคง และส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในทุกเรื่องที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ไทยและสหรัฐฯ ยังจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนโดยเฉพาะในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะช่วยสานต่อและเป็นพื้นฐานอันมั่นคงสำหรับความสัมพันธ์ไทยและสหรัฐฯ ต่อไปในอนาคต