การเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎร

การเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎร
ข้อมูลทั่วไป
- การเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎร หรือ การบันทึกฐานะแห่งครอบครัวภายหลังการสมรส/หย่า จะต้องดำเนินการที่ประเทศไทยเท่านั้น โดยผู้ร้องที่จดทะเบียนสมรส/หย่าภายใต้กฎหมายต่างประเทศ เช่น กฎหมายสหรัฐอเมริกา และต้องการจะเปลี่ยนนามสกุลหลังการสมรส/หย่า ต้องยื่นคำร้องขอบันทึกฐานะแห่งครอบครัวและเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎรที่สำนักงานเขต/อำเภอที่ประเทศไทยเท่านั้น หากผู้ร้องจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายอเมริกา จะต้องนำทะเบียนสมรส/หย่าที่ออกหน่วยราชการสหรัฐอเมริกาไปผ่านการรับรองเอกสาร 3 แห่งในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Secretary of State, Department of States และสถานเอกอัครราชทูตฯ ก่อนที่จะนำไปใช้ที่ประเทศไทย
- สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่รับรองลายมือชื่อในเอกสารที่กรอกข้อความไม่ครบถ้วน
- สถานเอกอัครราชทูตฯ รับรองเฉพาะลายมือชื่อ ไม่รับรองข้อความใดๆ ที่ปรากฎในเอกสาร
ขั้นตอนการดำเนินการ (4 ขั้นตอน)
ก่อนที่จะยื่นคำร้องต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ท่านจะต้องนำทะเบียนสมรส/หย่าท้องถิ่นที่ออกโดยทางการสหรัฐฯ ออกให้ (US Marriage Certificate) ไปผ่านการรับรอง (Authentication) จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน โดยมีลำดับตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 (สามารถดำเนินการได้ทางไปรษณีย์) ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 นำทะเบียนสมรส/หย่าท้องถิ่นของทางราชการสหรัฐฯไปผ่านการรับรองจาก Office of the Secretary หรือ State Authentication ของมลรัฐที่ออกสูติบัตรท้องถิ่นให้ ท่านสามารถหาข้อมูลของหน่วยงานและสถานที่สำหรับส่งเอกสารไปรับรองได้ที่
(www.nass.org เลือก Business Services > Apostilles/Authentications > เลือกมลรัฐที่ออกเอกสารท้องถิ่นให้) |
ขั้นตอนที่ 2 นำทะเบียนสมรส/หย่าท้องถิ่นที่ผ่านการรับรองในขั้นตอนที่ 1 ไปผ่านการรับรองที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ Department of State, Authentication Office, Washington DC ท่านสามารถหาข้อมูลของหน่วยงานและสถานที่สำหรับส่งเอกสารไปรับรองได้ที่
Authentication Office, United State Department of State 600 19th Street, NW https://travel.state.gov/content/travel/en/legal-considerations *** ทะเบียนสมรส/หย่าท้องถิ่นที่ออกโดยทางการสหรัฐฯ จะต้องผ่านการรับรอง 2 แห่งดังกล่าวก่อนที่ยื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เนื่องจากเป็นระเบียบในการนำเอกสารต่างประเทศไปใช้ต่อหน่วยราชการไทย ซึ่งจะต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงต่างประเทศของประเทศนั้นๆ ก่อนเสมอ *** |
ขั้นตอนที่ 3 ยื่นเอกสารต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องได้ 2 วิธี คือ
Royal Thai Embassy, Consular Office 2300 Kalorama Rd., N.W. Washington DC 20008 ทั้งนี้ การยื่นคำร้องต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อนำไปใช้ในการเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎรที่ประเทศไทย จะแบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้ 3.1 กรณีผู้ร้องและคู่สมรสเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ 3.2 กรณีคู่สมรสไม่สามารถเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ 3.3 กรณีผู้ร้องและคู่สมรสไม่สามารถเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ (มอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน) ———————————— 3.1 กรณีผู้ร้องและคู่สมรสเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ
ค่าธรรมเนียม
3.2 กรณีคู่สมรสไม่สามารถเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ
ค่าธรรมเนียม
———————————— 3.3 กรณีผู้ร้องและคู่สมรสไม่สามารถเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ (มอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน)
ค่าธรรมเนียม
การออกเอกสารจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ นับจากวันที่สถานเอกอัครราชทูตฯได้รับคำร้อง การขอรับเอกสาร ผู้ร้องสามารถรับเอกสารได้ 2 วิธี
11.00 – 12.00 น. วันจันทร์ – วันศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการสถานทูต)
(ไม่รับ Meter Stamp)
หมายเหตุ 1.สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่รับผิดชอบกรณีเอกสารสูญหายทางไปรษณีย์ ไม่ว่ากรณีใด
|
ขั้นตอนที่ 4 การดำเนินการในประเทศไทย
4.1 นำเอกสารตัวจริงที่ผ่านขั้นตอนการรับรองเอกสารทั้งสามแห่งในสหรัฐอเมริกา (Office of the Secretary of State, Department of State และสถานเอกอัครราชทูตฯ) ไปประเทศไทยและนำใบทะเบียนสมรส/หย่า ไปแปลเป็นภาษาไทยได้ตามร้านรับจ้างแปลทั่วไป
4.2 นำใบทะเบียนสมรส/หย่า พร้อมคำแปลภาษาไทย ไปที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับรองเอกสารดังกล่าว กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เวลาทำการ : 08.30-14.30 น. (ปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) อีเมลล์ : consular04@mfa.go.th เวปไซต์ www.consular.go.th
4.3 นำเอกสารตัวจริงและคำแปลที่ผ่านการรับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ไปยื่นคำร้องต่อที่ว่าการอำเภอ กิ่งอำเภอ หรือเขตที่ท่านมีชื่ออยู่ เพื่อทำการบันทึกสถานะครอบครัว โดยเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนบ้าน หลังจากนั้น ท่านจะต้องทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ เพื่อนำไปใช้ทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ (e-passport) |