๕ ธันวาคม มิตรสหายประเทศไทยเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองวันชาติอย่างเนืองแน่น


เมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ร่วมกับทีมประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองในโอกาสคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ โดยเชิญพสกนิกรชาวไทย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาล รัฐสภา และเอกชนของสหรัฐฯ คณะทูตานุทูตและมิตรสหายประเทศไทยเข้าร่วมงาน ณ โรงแรมแฟร์มอนต์ในกรุงวอชิงตัน

งานนี้ได้รับเกียรติจากวุฒิสมาชิกลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ จากรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกเชื้อสายไทย-อเมริกันคนแรก เข้าร่วมในฐานะแขกเกียรติยศจากฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ และ ดร.โจเซฟ เฟลเตอร์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมในฐานะแขกเกียรติยศจากฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯ

นางภัทราวรรณ เวชชศาสตร์ อุปทูต ได้กล่าวต้อนรับมิตรประเทศไทยที่เดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งสะท้อนไมตรีจิตและความใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยและสหรัฐฯ พร้อมทั้งแสดงความซาบซึ้งในมิตรภาพที่ทุกฝ่ายในสหรัฐฯ ได้มอบให้กับประเทศไทยในช่วงเวลาอันโศกเศร้าภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และกล่าวรำลึกถึงบทบาทสำคัญของพระองค์ที่สหประชาชาติได้เทิดพระเกียรติให้วันที่ ๕ ธันวาคมเป็นวันดินโลก และต่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับความเป็นพันธมิตรระหว่างกัน นอกจากนี้ อุปทูตได้กล่าวถึงพัฒนาการที่ดีของความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ในช่วงปีทีผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด นายกรัฐมนตรีของไทยได้เยือนสหรัฐฯ และได้พบหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำภาคส่วนต่างๆ ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นต่อไปในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับประชาชน ซึ่งวุฒิสมาชิกดักเวิร์ธ ถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับชุมชนไทย-อเมริกันทั่วสหรัฐฯ

วุฒิสมาชิกดักเวิร์ธได้กล่าวว่าตนเองรู้สึกโชคดีที่เกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และได้มีพระองค์เป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อประชาชนมาโดยตลอด ส่วน ดร.เฟลเตอร์ ได้กล่าวเป็นภาษาไทยถึงความประทับใจส่วนตัวต่อประเทศไทย และความทรงจำที่ดีที่ได้เคยร่วมฝึกกับทหารไทยตั้งแต่สมัยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ พร้อมทั้งได้กล่าวถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองประเทศที่เป็นพันธมิตรสำคัญและเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์จะยิ่งแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นต่อไปในทุกด้าน

นอกจาก แขกเกียรติยศทั้งสองแล้ว ยังมีนางไดแอน ฟาร์เรล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ผู้บริหารสถาบัน มูลนิธิและบุคคลสำคัญจากภาคส่วนต่างๆ ที่เป็นมิตรของประเทศไทยเข้าร่วมงานจำนวนมาก รวมถึง ศ. นพ. มอร์ตัน มาวเวอร์ ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี ๒๕๕๘ ซึ่งเดินทางมาจากรัฐโคโลราโดพร้อมภรรยา นายแซค แบล็คมอน ทายาทรุ่นที่ ๔ ของแฝดสยามอิน-จัน ซึ่งขับรถมา ๕ ชั่วโมงจากรัฐนอร์ธแคโรไลนา เพื่อมาร่วมงาน นอกจากนี้ มิตรสหายประเทศไทยทั้งที่เคยปฏิบัติหน้าที่หรือประจำการในประเทศไทย สื่อมวลชนไทยและสหรัฐฯ รวมทั้งพสกนิกรชาวไทยจากชมรมและสมาคมในเขตกรุงวอชิงตันและรัฐใกล้เคียงก็มาร่วมงานประมาณ ๕๐๐ คน เนื่องแน่นสถานที่จัดงาน

นอกจากนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติและพระราชประวัติในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติแล้ว สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้เชิญคณะนักดนตรีไทยจากกลุ่มญาณศักดิ์ทิพย์ วัดญาณรังษีเวอร์จิเนีย และดนตรีแจ๊สบรรเลงโดยนายบันเทิง ปัทมเวณุ ผู้เคยเล่นแจ๊สเพลงพระราชนิพนธ์ถวายและได้รับพระราชทานแซกโซโฟนจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีรำอวยพรเพลงพ่อของแผ่นดิน และคณะนาฏศิลป์ครูอาสาและนักเรียนเยาวชนไทย-อเมริกันจากโรงเรียนวัดไทยกรุงวอชิงตันดีซีนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติสหรัฐฯ

ในงานยังมีนิทรรศการและการจัดแสดงผ้าไหมและผลิตภัณฑ์กล้วยไม้สดจากบริษัท The Orchid Lei รัฐฮาวาย ผู้นำเข้ากล้วยไม้ไทย ทีมประเทศไทยได้สนับสนุนการจัดงานโดยนำร้านอาหารไทยจากโครงการ Thai Select ให้บริการอาหารไทยต้นตำรับ การสาธิตแกะสลักผักและผลไม้ และอาหารหวาน รวมทั้งผลิตภัณฑ์โอทอปประเภทเครื่องสำอางไทยที่แปรรูปจากยางพารา รังไหมและพืชพันธุ์พื้นเมืองของไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาจัดแสดง และเอกสารท่องเที่ยวและของที่ระลึกแจกแขกที่มาร่วมงาน และบริษัทเอกชนของไทยนำผลิตภัณฑ์ข้าวไทยมาจัดแสดงและให้ลองชิมกันอีกด้วย