ความคืบหน้าในการจัดทำการบินรับส่งบุคคลกลับไทย (repatriation flight)


 

 

ตามที่ประกาศห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวของ กพท. ไม่รวมถึงอากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา (repatriation flight) และในช่วงที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ได้ประสานขออนุญาตอำนวยความสะดวกการบินรับส่งบุคคลคนไทยในสหรัฐฯ เดินทางกลับประเทศไทยตามโควตาที่ได้รับจัดสรร นั้น

 

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนแจ้งความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินการต่อไป ดังนี้

 

–  ในช่วง 10 – 19 พ.ค. 2563 ทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ นำโดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมด้วยสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่ง ได้อำนวยความสะดวกคนไทยในสหรัฐฯ เดินทางกลับประเทศไทยประมาณ 830 คน โดย repatriation flights จำนวน 5 เที่ยวบิน โดยสายการบินKorean Air สายการบิน Asiana และการบินไทยฯ

 

–  ขณะนี้ ยังมีคนไทยในสหรัฐฯ ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศไทยอีกกว่า 3,000 คน

 

–  ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ค. 2563 ทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ได้รับโควต้าเพิ่มเติมให้จัด repatriation flight อีก 3 เที่ยวบิน ดังนี้

  • 22 พ.ค. 2563 – 100 คน
  • 28 พ.ค. 2563 – 100 คน
  • 30 พ.ค. 2563 – 100 คน

หมายเหตุ

(1) กำหนดวันคือวันที่เดินทางถึงประเทศไทย

(2) จำนวนคนที่จะได้รับการจัดสรรขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการเดินทางกลับของคนไทยในประเทศอื่น ๆ และโควต้ารวม 400 คนต่อวันทั่วโลกด้วย ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีคนไทยประมาณ15,000 คนที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศและต้องการกลับ

 

–  สำหรับเดือน มิ.ย. 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบทันทีที่ได้รับโควต้าจากทางการไทย

 

 

ขั้นตอนและแนวทางการดำเนินการ

 

  1. เส้นทางการเดินทาง – จากการประสานสายการบินต่าง ๆ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการในช่วงดังกล่าว ขณะนี้ สายการบิน Korean Air และสายการบิน Asiana มีความพร้อมในการดำเนินการ โดยมีอัตราค่าบัตรโดยสารประมาณ 1,400 – 1,800 เหรียญสหรัฐ(one way ticket) ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางจากสหรัฐฯ ไปยังประเทศไทย (เปลี่ยนเครื่องที่กรุงโซล เกาหลีใต้) ทั้งนี้ ผู้ที่ถือบัตรโดยสารสายการบินดังกล่าวแล้วจะสามารถปรับวันเวลาเดินทางให้สอดคล้องกับโควต้าที่ได้รับมอบหมายได้ โดยจะต้องดำเนินการจองบัตรโดยสารกับสายการบินเอง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่งจะแจ้งแนวปฏิบัติที่ชัดเจนอีกครั้งเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากสายการบิน

 

  1. การจัดสรรโควต้าการเดินทาง – ผู้ที่ลงทะเบียนในระบบ www.thaiembdc.org/emergencyreg จะได้รับการพิจารณาตามอันดับการลงทะเบียนเป็นลำดับต้น ขณะที่กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุต่ำกว่า 18 ปี) รวมถึงผู้มีความจำเป็นเร่งด่วนด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ (อาทิ ปัญหาสุขภาพร้ายแรง ญาติใกล้ชิดที่ไทยป่วยหนักหรือเสียชีวิต ไม่มีที่พักและไม่มีที่พึ่ง และไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้) จะได้รับการพิจารณาลำดับต่อมา

 

  1. ในช่วงสัปดาห์นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่ง จะจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์ได้รับการจัดสรรโควต้าในข้อ 2 โดยจะส่งอีเมลไปสอบถามความพร้อมในการเดินทางของผู้ที่อยู่ในเกณฑ์

 

  1. ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยตามข้อยกเว้นของประกาศ กพท. จะต้องเข้ารับการกักกันเฝ้าระวังโรค (State Quarantine) ในสถานที่ที่รัฐกำหนดเป็นเวลา 14 วัน

 

  1. ตามข้อกำหนดล่าสุด ทางการไทยขอความร่วมมือผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยทุกคนกักตัวเอง (self-quarantine) ในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน ก่อนเดินทาง และหากท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดยพิจารณาจากอาชีพ สถานที่พัก ลักษณะการใช้ชีวิตทางสังคม รวมถึงกิจกรรมประจำวัน ท่านต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 โดยวิธี PCR swab test และหากผลเป็นบวก ท่านจะไม่สามารถเดินทางได้ อนึ่ง ในการประเมินความเสี่ยง ท่านอาจพิจารณาใช้ประโยชน์จากวิธีประเมินตนเอง (Coronavirus Self-Checker) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ(CDC) ของสหรัฐฯ ที่ https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/testing/diagnostic-testing.html

 

  1. โปรดตรวจสอบระยะเวลาที่ท่านได้รับอนุญาตจากทางการสหรัฐฯ ให้พำนักในสหรัฐฯ และหากพบว่าระยะเวลาในการพำนักใกล้จะสิ้นสุดแล้ว หรือยังไม่แน่ใจช่วงเวลาการเดินทางกลับไทย ขอให้ยื่นคำขอขยายเวลาการพำนักในสหรัฐฯ (extension of stay) กับ USCIS (www.uscis.gov/visit-united-states/extend-your-stay)

 

  1. ขอให้ท่านติดตามข่าวสารจากทางเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง3 แห่งอย่างใกล้ชิดสำหรับท่านที่ตกค้างและยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ และยังไม่ได้ลงทะเบียน ขอให้ลงทะเบียนแผนการเดินทางและรับข้อมูลข่าวสารที่ www.thaiembdc.org/emergencyreg (เว็บไซต์กลางทั้งสหรัฐฯ)

 

อนึ่ง หากท่านมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม ขอให้ท่านติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ท่านพำนักอยู่ ดังนี้

 

* สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน

   www.thaiembdc.org / consular@thaiembdc.org /

   Hotline (202) 999 7690 (202) 431 0882 (202) 465 0938 (202) 431 7766

 

* สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส

   www.thaiconsulatela.org / consular@thaiconsulatela.org /

   Hotline (323) 580 4222 (323) 552 3227 (747) 334 4558 (818) 292 7591

 

* สถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก

   www.thaiconsulatechicago.org / info@thaiconsulatechicagoorg /

   Hotline (773) 294 5933

 

* สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก

   www.thaicgny.com / info@thaicgny.com /

   Hotline (646) 842 0864