หนังสือรับรอง เพื่อเปลี่ยนวีซ่า J-1
อัตราค่าไปรษณีย์ Priority Mail Flat Rate ได้ปรับราคาเป็น 9.65 ดอลลาร์สหรัฐ

รายชื่อบริษัทตัวแทนในไทยที่ได้รับสิทธิสรรหานักศึกษาไทยเพื่อเข้าร่วมโครงการ Work and Travel ในสหรัฐฯ
โดยบริษัทตัวแทนในไทย จะต้องได้รับอนุมัติการดำเนินโครงการฯ จากบริษัทเอกชนในสหรัฐฯ ที่ได้รับรองจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในฐานะ designated sponsor แล้วเท่านั้น ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทตัวแทนในไทยที่ได้รับอนุมัติการดำเนินโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย
การยื่นคำร้อง
ทั้งนี้ ผู้ยื่นคำร้องด้วยตนเองหรือโดยไปรษณีย์ต้องกรอกคำร้องนิติกรณ์ [Download] จำนวน 1 ชุด โดยกรอกรายละเอียดในคำร้องให้ครบถ้วน พร้อมทั้งระบุหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะสามารถติดต่อผู้ร้องได้โดยตรง อนึ่งหากผู้ร้องพำนักในประเทศไทยหรือในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศสหรัฐอเมริกา สถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดต่อกับผู้ร้องโดยทางอีเมล
เอกสารประกอบคำร้องนิติกรณ์
ในการขอหนังสือรับรองดังกล่าวและแนบเอกสารประกอบ (ในกรณีใดกรณีหนึ่ง) ดังนี้
แบบฟอร์มหนังสือแจ้งความประสงค์ J-1
***กรณีผู้ยื่นคำขอเป็นผู้ได้รับทุนให้มาศึกษา หรือดูงาน หรือฝึกงานในสหรัฐอเมริกาจากหน่วยงาน หรือ องค์กรใดในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ให้ระบุรายละเอียดว่า ผู้ร้องเดินทางเข้ามาศึกษาหรือ ดูงาน หรือ ฝึกงานในสหรัฐอเมริกา ณ สถาบันใด ตั้งแต่เมื่อใด เป็นระยะเวลาเท่าใด
(หมายเหตุ: ขอให้ระบุข้อความในย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือแจ้งความประสงค์ว่า “ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อความในหนังสือเป็นความจริงทุกประการ” และลงลายมือชื่อผู้ร้องด้วย)***
3.1 กรณีได้งานทำ: จดหมายยืนยันของนายจ้างในการเสนองานให้แก่ผู้ร้อง (Job Offer letter)
3.2 กรณีจดทะเบียนสมรส: สำเนาทะเบียนสมรสและสำเนาหนังสือเดินทางของคู่สมรส และ Notary Public for Signature ของคู่สมรส ทั้งนี้ สำเนาเอกสารดังกล่าวต้องได้รับความรับรองความถูกต้องจาก Notary Public
3.3 กรณีคู่หมั้น: Letter of Intention จากคู่หมั้น สำเนาหนังสือเดินทางของคู่หมั้น และ Notary Public for Signature ทั้งนี้ สำเนาเอกสารดังกล่าวต้องได้รับความรับรองความถูกต้องจาก Notary Public
3.4 กรณีเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียน F1 : จดหมายตอบรับเข้าเรียนจากสถานศึกษา (acceptance letter) หรือหลักฐานการลงทะเบียนเรียน และเอกสารการตอบรับเข้าศึกษาที่สถาบันการศึกษาเป็นผู้ออกให้ (I-20)
3.5 กรณียื่นวีซ่าผู้มีความสามารถพิเศษ EB-2 NIW: สำเนาใบเสร็จยื่นคำร้อง I-140 จาก USCIS
***สำหรับกรณีอื่นๆ นอกเหนือจากข้อมูลข้างต้น ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อได้รับการพิจารณาก่อนการยื่นคำร้อง โทร 202-640-5671 อีเมล protection@thaiembdc.org ***
สำเนาใบประกาศนียบัตร และใบ transcript ในประเทศไทยและต่างประเทศ (สถานบันการศึกษา และวัน เดือน ปีที่สำเร็จการศึกษา)
หรือหากมีสถานะเป็นข้าราชการซึ่งเคยหรืออยู่ระหว่างการรับทุนของรัฐบาล/หน่วยงานราชการของไทยให้ไปศึกษา ดูงาน ฝึกงานในต่างประเทศ และยังมีพันธะต้องชดใช้ทุนหรือกลับไปทำงานชดใช้ทุน หรือมีสถานะเป็นผู้กู้ยืมเงินกองทุนให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้อนาคต (กรอ.) หรือเป็นผู้กู้ยืมเงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ผู้ยื่นคำขอจะต้องแจ้งรายละเอียดดังกล่าว
พร้อมทั้งแนบหนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าของทุน หรือหนังสือรับรองจากหน่วยราชการเจ้าสังกัด หรือหน่วยงานผู้ให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา แล้วแต่กรณีว่าผู้ยื่นคำขอไม่มีพันธะที่จะต้องกลับไปปฏิบัติงานรับราชการหรือมีพันธะต้องชดใช้เงินคืนแก่หน่วยงานใด
(หน้าแรกที่มีรูปและรายละเอียดหนังสือเดินทาง) ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ Notary Public รับรองว่าเป็นสำเนาที่ถ่ายจากต้นฉบับจริง (certified true copy) จำนวน 1 ชุด
ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ Notary Public รับรองว่าเป็นสำเนาที่ถ่ายจากต้นฉบับจริง (certified true copy) จำนวน 1 ชุด
ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ Notary Public รับรองลายมือชื่อ [Download]
ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ Notary Public รับรองว่าเป็นสำเนาที่ถ่ายจากต้นฉบับจริง จำนวน 1 ชุด
ไม่ต้องจ่าหน้าซอง เพื่อที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะส่งให้ทางการสหรัฐฯ
คำถามที่พบบ่อย FAQS
อาจมีการยกเว้นได้ในบางกรณี ซึ่งจะมีเพียงสำนักงานวีซ่าของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเท่านั้นที่สามารถให้สิทธิ์ยกเว้นกฎสองปีได้ โดยไม่ว่าหนังสือเดินทางของท่านจะถูกระบุไว้ว่าอย่างไรก็ตาม สำนักงานวีซ่าจะมีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาว่าท่านอยู่ภายใต้กฎดังกล่าวหรือไม่ ในกรณีที่ท่านอยู่ภายใต้กฎสองปี ท่านอาจได้รับ การผ่อนผัน และถึงแม้ท่านจะอยู่ภายใต้กฎสองปี ท่านก็ยังมีสิทธิ์ได้รับ วีซ่าธุรกิจ/นักท่องเที่ยว หรือวีซ่าชั่วคราวประเภทอื่นๆ ยกเว้น วีซ่าทำงานชั่วคราว (H1) วีซ่าพนักงานที่ย้ายไปทำงานที่สหรัฐฯชั่วคราวภายใต้การจ้างงานของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกัน (L1) และวีซ่าคู่หมั้น (K1)
สำหรับบุคคลสัญชาติไทย ต้องติดต่อยื่นเอกสารแจ้งความประสงค์เพื่อขอปลดภาระผูกพันของวีซ่าประเภท J1 กับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตันเท่านั้น
ไม่มีค่าธรรมเนียมในการขอหนังสือ No Objection Statement ผ่านสถานเอกอัครราชทูตฯ
ระยะเวลาในการขอหนังสือ No Objection Statement ผ่านสถานเอกอัครราชทูตฯ | |
สถานเอกอัครราชทูตฯ ส่งหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ | 1-2 สัปดาห์ |
การตรวจสอบภาระผูกพัน สำนักงาน ก.พ. และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) | 1-3 เดือน |
สถานเอกอัครราชทูตฯ ส่งหนังสือ J1 No Objection Statement ถึง J1 Waiver Division, Department of State (หลังได้รับผลการตรวจสอบฯ จากกระทรวงฯ) | 1-2 สัปดาห์ |
ไม่สามารถขอ No Objection Statement ได้ เนื่องจากถือว่ายังมีพันธะต้องชดใช้ทุนหรือกลับไปทำงานชดใช้ทุน หรือต้องชำระหนี้กองทุนกู้ยืมเต็มจำนวนและปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว (การยื่นเอกสารขอ No Objection Statement โดยที่ผู้ร้องทราบว่ายังมีพันธะผูกพัน เมื่อถูกปฏิเสธ การยื่นเอกสารคำร้องอีกครั้ง จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน)
สถานเอกอัครราชทูตฯ จะส่งหนังสือแจ้งผู้ร้องเกี่ยวกับผลตรวจสอบ พร้อมทั้งวิธีแนะนำ
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ผู้ร้องส่งเอกสารประกอบเพิ่มเติมหลังได้รับแจ้งภายในระยะเวลา 90 วัน หากเกินระยะเวลา เอกสารจะถูกส่งกลับให้ผู้ร้อง โดยผู้ร้องจะต้องเริ่มขั้นตอนการรับรองเอกสารและส่งเอกสารใหม่ทั้งหมด
หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการแก้ไข ก่อนเจ้าหน้าที่ดำเนินการส่งหนังสือ No Objection Statement ถึง J1 Waiver Division, Department of State (แจ้งทางอีเมล protection@thaiembdc.org หรือ โทร 202-640-5671)
การส่งเอกสารให้สถานเอกอัครราชทูตฯ จำเป็นต้องทำ Notary Public Signature เพื่อรับรองลายมือชื่อผู้ยื่นคำร้อง สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประชาชน และสำเนา J1 Visaผู้ร้อง (กรณีแต่งงาน สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาหนังสือเดินทางคู่สมรส / คู่หมั้น) Notary Public Signature การรับรองลายมือชื่อที่มีการลงชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ Notary Public หรือรับรองเอกสารว่าเป็นเอกสารที่ทำสำเนาถูกต้องจากต้นฉบับ โดยสามารถรับบริการทำ Notary Public ได้ที่ธนาคาร หรือไปรษณีย์ UPS
ตรวจสอบสถานะได้ที่ https://j1visawaiverstatus.state.gov/ โดยใช้ Case number บนเอกสาร 3rd party barcode หรือติดต่อสอบถามทางอีเมลหากสถานะเอกสารเกินกำหนดระยะเวลา 212ewaiver@state.gov
https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/study/exchange/waiver-of-the-exchange-visitor/how-to-apply-waiver.html
***เอกสารด้านล่างเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ทั้งนี้ รูปแบบการทำ Notary public ของเจ้าหน้าที่อาจแตกต่างกัน***
ระยะเวลาการดำเนินการ
ฝ่ายคุ้มครองคนไทย (Protection section)
หมายเลขโทรศัพท์ (202) 640-5671
อีเมล: protection@thaiembdc.org
- อนึ่ง โดยที่การส่งเอกสารทางไปรษณีย์ดำเนินการโดย USPS สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงไม่อาจรับผิดชอบการสูญหายของเอกสารระหว่างการส่ง
- ไม่มีค่าธรรมเนียม