สูติบัตรไทย (ไทย-English)
3 ขั้นตอนง่ายๆ การขอสูติบัตรไทย (English)
➡ (คลิกที่นี่) การเตรียมเอกสารขั้นตอนที่ 1
➡ (คลิกที่นี่) การเตรียมเอกสารขั้นตอนที่ 2
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 แล้วขอให้เตรียมเอกสารเพื่อยื่นกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ดังนี้
การขอสูติบัตรไทย |
- บุคคลที่เกิดโดยบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือมารดาไทย ไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักร ย่อมได้สัญชาติไทยโดยกำเนิด
- จากสถานการณ์ปัจจุบัน การยื่นคำร้องต้องผ่านทางไปรษณีย์เท่านั้น (ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เรื่อง การปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการกงสุลเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ (โคโรนาไวรัส) ฉบับที่ ๒) Royal Thai Embasssy, Consular Section Address: 2300 Kalorama Rd. NW, Washington, D.C. 20008 และควรส่งเอกสารล่วงหน้าเพื่อตรวจความถูกต้อง ทางอีเมลที่ regis@thaiembdc.org
- ระยะเวลาดำเนินการจนแล้วเสร็จ (ในกรณีเอกสารครบถ้วน) ใช้เวลาประมาณ 20 วันทำการ
ข้อแนะนำเรื่องชื่อและนามสกุลเด็ก |
- ชื่อและนามสกุลของเด็กในสูติบัตรไทยต้องตรงกับในสูติบัตรสหรัฐฯ
- นามสกุลของเด็กในสูติบัตรไทยต้องใช้นามสกุลบิดาตามกฎหมายหรือมารดาเท่านั้น และตัวสะกดต้องยึดตามเอกสารไทยของบิดา/มารดา
*ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม และตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaiembdc.org/th/ |
ขอบเขตการให้บริการ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน จะออกสูติบัตรไทยให้กับเด็กไทยที่มีบิดา/มารดาเป็นบุคคลสัญชาติไทยเท่านั้น โดยให้บริการสำหรับผู้ที่เกิดใน 14 รัฐในเขตอาณา ได้แก่ District of Columbia, Maryland, Virginia, West Virginia, Delaware, Texas, Louisiana, Mississippi, Atlanta, Tennessee, Georgia, Florida, South Carolina และ North Carolina
(รวมทั้งเกาะ Puerto Rico)
ในกรณีที่มารับด้วยตนเอง |
ผู้แจ้งต้องเดินทางมาเซ็นและรับเอกสารด้วยตัวเองที่ ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยต้องเตรียมพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชนที่มีอายุมาในวันนัดหมาย เอกสารที่ต้องเตรียม 1) สูติบัตรสหรัฐฯ ที่ผ่านการรับรองผ่านขั้นที่ 1 และ 2 แล้วพร้อมสำเนา 1 ชุด 2) รูปถ่ายสีของเด็ก ขนาด 2 x 2 นิ้ว 2 รูป 3) ใบรับรองจากโรงพยาบาล ในกรณีที่ใบเกิดสหรัฐฯ ไม่ระบุชื่อโรงพยาบาลและน้ำหนักของเด็ก จะต้องขอใบรับรองจากทางโรงพยาบาล (ใบสำคัญแสดงน้ำหนักแรกเกิดของบุตรที่ออกให้จากโรงพยาบาล) พร้อมสำเนา 1 ชุด 4) สำเนาบัตรประจำตัวท้องถิ่นของบิดา มารดา เช่น Driver License หรือ State ID 1 ชุด (ถ้ามี) 5) บัตรประชาชนไทย (ตัวจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด 6) หนังสือเดินทางบิดาและมารดาที่มีอายุ (ตัวจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด 7) ทะเบียนสมรส (ตัวจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด 8) แบบฟอร์ม “คำร้องสูติบัตร” [Download] “คำร้องนิติกรณ์สำหรับขอสูติบัตร” [Download] “บันทึกคำให้การของมารดา” (กรณีบิดาเป็นชาวต่างชาติ) [Download] “บันทึกคำให้การของมารดา” (กรณีที่บิดาและมารดามิได้จดทะเบียนสมรส) [Download] 9) ค่าธรรมเนียมรับรองสูติบัตรสหรัฐฯ Money Order $15.00 ดอลลาร์สหรัฐ สั่งจ่าย “Royal Thai Embassy”
*หนังสือเดินทาง บัตรประชาชน และทะเบียนสมรส สามารถใช้สำเนาที่ผ่านการรับรองโดย Notary Public แทนเอกสารตัวจริงได้ *ท่านสามารถนัดหมายมาเซ็นเอกสาร ในวันที่มีกำหนดนัดหมายทำพาสปอร์ตในกรณีที่ไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกสูติบัตร |
ในกรณีรับทางไปรษณีย์ |
เจ้าหน้าที่จะส่งเอกสารประกอบคำร้องและใบสูติบัตรตัวจริงให้ทางผู้แจ้งได้เซ็นชื่อในช่องผู้แจ้ง เมื่อผู้แจ้งได้เซ็นชื่อแล้วต้องรีบนำส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและจัดเก็บลงระบบในลำดับต่อไป เอกสารที่ต้องเตรียม 1) สูติบัตรสหรัฐฯ ที่ผ่านการรับรองผ่านขั้นที่ 1 และ 2 แล้วพร้อมสำเนา 1 ชุด 2) รูปถ่ายสีของเด็ก ขนาด 2 x 2 นิ้ว 2 รูป 3) ใบรับรองจากโรงพยาบาล ในกรณีที่ใบเกิดสหรัฐฯ ไม่ระบุชื่อโรงพยาบาลและน้ำหนักของเด็ก จะต้องขอใบรับรองจากทางโรงพยาบาล (ใบสำคัญแสดงน้ำหนักแรกเกิดของบุตรที่ออกให้จากโรงพยาบาล) พร้อมสำเนา 1 ชุด 4) สำเนาบัตรประจำตัวท้องถิ่นของบิดา มารดา เช่น Driver License หรือ State ID 1 ชุด (ถ้ามี) 5) บัตรประชาชนไทย (ตัวจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด 6) หนังสือเดินทางบิดาและมารดาที่มีอายุ (ตัวจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด 7) ทะเบียนสมรส (ตัวจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด 8) แบบฟอร์ม “Notary Public for Signature” [Download] “คำร้องสูติบัตร” [Download] “คำร้องนิติกรณ์สำหรับขอสูติบัตร” [Download] “บันทึกคำให้การของมารดา” (กรณีบิดาเป็นชาวต่างชาติ) [Download] “บันทึกคำให้การของมารดา” (กรณีที่บิดาและมารดามิได้จดทะเบียนสมรส) [Download] 9) ค่าธรรมเนียมรับรองสูติบัตรสหรัฐฯ Money Order $15.00 ดอลลาร์สหรัฐ สั่งจ่าย “Royal Thai Embassy” 10) ซองส่งกลับ แบบ USPS Priority Mail ติดแสตมป์ ราคา $8.95 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 2 ซองโดยเขียนชื่อ-ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์บนซองถึงตัวท่านเองให้ชัดเจน
* เพื่อป้องกันการสูญหาย ทุกซองต้องมี Tracking number * หากผู้แจ้งไม่สามารถนำส่งเอกสารที่เซ็นชื่อแล้วมาให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ คำร้องนั้นถือว่าเป็นคำร้องที่ไม่สมบูรณ์ |